
รักษาสมาธิสั้น แล้วแต่ยังไม่เห็นผล ฝึกสมอง อาจช่วยได้
สำหรับผู้ปกครองที่มีลูกเป็น เด็กสมาธิสั้น การได้รับการวินิจฉัยและเข้ารับการ รักษาสมาธิสั้น อาจเป็นก้าวแรกที่สำคัญ แต่หลายคนอาจพบว่าลูกยังคงมีอาการอยู่ แม้จะได้รับการรักษาด้วยยาแล้ว ซึ่งอาจทำให้รู้สึกกังวลใจและสงสัยว่าจะทำอย่างไรต่อไป สิ่งนี้เป็นเรื่องปกติ และมีผู้ปกครองจำนวนมากที่เผชิญกับสถานการณ์เดียวกัน ข่าวดี คือ ยังมีแนวทางอื่น ๆ อย่างการรักษาสมาธิสั้นด้วยกิจกรรมบำบัด ที่สามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กได้
สารบัญ
ฝึกสมาธิ และฝึกสมอง การรักษาทางเลือก
การฝึกสมองโดยผู้เชี่ยวชาญที่ Brain and Life Center
รักษาสมาธิสั้น ในเด็ก

โรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder – ADHD) เป็นภาวะที่ส่งผลต่อสมาธิ การควบคุมตนเอง และพฤติกรรมของเด็ก ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในการเรียนรู้ การเข้าสังคม และการใช้ชีวิตประจำวัน การรักษาโรคสมาธิสั้นเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจและความร่วมมือจากหลายฝ่าย รวมถึงแพทย์ ผู้ปกครอง ครู และตัวเด็กเอง
1. การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ
ยารักษาสมาธิสั้น เป็นหนึ่งในแนวทางหลักที่ใช้ในการบรรเทาอาการ โดยมียาสองกลุ่มหลัก ได้แก่
- ยากลุ่มกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง (Stimulants) เช่น เมทิลเฟนิเดต (Methylphenidate) และแอมเฟตามีน (Amphetamine) ซึ่งช่วยเพิ่มระดับสารสื่อประสาทในสมอง ทำให้เด็กมีสมาธิดีขึ้น และลดพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น
- ยากลุ่มไม่กระตุ้น (Non-stimulants) เช่น อะโทม็อกซีทีน (Atomoxetine) ซึ่งออกฤทธิ์ช้ากว่า แต่ช่วยควบคุมอาการได้ดีในบางราย
แม้ว่ายาจะช่วยลดอาการสมาธิสั้นได้ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียง เช่น อาการนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร หงุดหงิด หรือความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ผู้ปกครองควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับยาให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน
2. การบำบัดพฤติกรรม (Behavioral Therapy)
การบำบัดพฤติกรรมเป็นแนวทางที่สำคัญในการช่วยให้เด็กปรับตัวและพัฒนาทักษะต่าง ๆ โดยสามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- ฝึกการจัดการตนเอง เช่น วางแผนล่วงหน้า
- ให้รางวัลเมื่อทำพฤติกรรมที่เหมาะสม
- ใช้เทคนิคสงบสติอารมณ์ เช่น การฝึกหายใจ
3. การปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
เด็กที่มีสมาธิสั้นมักจะไวต่อสิ่งเร้าภายนอก ดังนั้นการจัดสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้พวกเขามีสมาธิมากขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น
- ลดสิ่งรบกวนในห้องเรียนและที่บ้าน จัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ หลีกเลี่ยงเสียงดัง
- กำหนดตารางเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้เด็กมีโครงสร้างในการดำเนินชีวิตประจำวัน
- สร้างพื้นที่สำหรับการปลดปล่อยพลังงาน เช่น การเล่นกีฬา การทำกิจกรรมกลางแจ้ง
การรักษาโรคสมาธิสั้น ต้องใช้แนวทางที่หลากหลายและต่อเนื่อง โดยไม่ใช่เพียงแค่การใช้ยาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับพฤติกรรม การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม การเข้าใจและยอมรับในตัวเด็ก รวมถึงการให้โอกาสเขาในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง จะช่วยให้เด็กที่มีสมาธิสั้นสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและประสบความสำเร็จในอนาคต

ฝึกสมาธิ และฝึกสมอง การรักษาทางเลือก
นอกเหนือจากการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นยังสามารถพัฒนาความสามารถในการจดจ่อ ควบคุมอารมณ์ และเสริมสร้างศักยภาพสมองได้ผ่านการ ฝึกสมาธิ และ ฝึกสมอง ซึ่งเป็นแนวทางเสริมที่ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ
กิจกรรมฝึกสมาธิที่เหมาะสมสำหรับเด็กสมาธิสั้น
- การฝึกสมาธิและการควบคุมอารมณ์
- การกำหนดลมหายใจ: ฝึกให้เด็กนั่งนิ่ง ๆ และหายใจเข้าออกอย่างมีสติ
- การทำสมาธิสั้น ๆ : ใช้เวลาสั้น ๆ วันละ 5-10 นาที ฝึกให้เด็กอยู่กับปัจจุบัน
- โยคะสำหรับเด็ก : ช่วยพัฒนาสมาธิ ความยืดหยุ่นของร่างกาย และการควบคุมอารมณ์
- การฝึกสมองผ่านกิจกรรมและเทคโนโลยี
- เกมฝึกสมอง : เช่น เกมจับคู่ เกมคำนวณง่าย ๆ ที่ช่วยพัฒนาความจำและการคิดวิเคราะห์
- กิจกรรมที่ต้องใช้การวางแผน : เช่น การต่อจิ๊กซอว์ หรือบอร์ดเกมที่ช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงตรรกะ
หนึ่งในสถานที่ที่ให้บริการฝึกสมองคือ Brain and Life Center ซึ่งใช้หลักการที่ได้รับการยอมรับในต่างประเทศในการช่วยพัฒนาการทำงานของสมอง เทคนิคที่ใช้สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมาธิและการควบคุมอารมณ์
การฝึกสมองโดยผู้เชี่ยวชาญที่ Brain and Life Center
Brain and Life Center เป็นศูนย์ที่เชี่ยวชาญด้านการฝึกสมอง โดยใช้หลักการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีโปรแกรมการฝึกที่เหมาะสมกับเด็กสมาธิสั้น ได้แก่
- One-on-One Learning (การฝึกสมองแบบตัวต่อตัว) การเรียนรู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งกับนักจิตวิทยาผ่านกิจกรรมที่ออกแบบให้สนุกและมีประสิทธิภาพ
- Digital Training (การฝึกผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์) การฝึกผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยเสริมทักษะทางการคิดด้านต่าง ๆ
แม้ว่าการฝึกสมาธิและฝึกสมองจะมีประโยชน์ แต่ก็ควรทำควบคู่ไปกับการรักษาของแพทย์ ผู้ปกครองควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับทางเลือกในการฝึกฝนเพิ่มเติม เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาวะของเด็กมากที่สุด

สรุป
สำหรับผู้ปกครองที่รู้สึกท้อแท้ อย่าลืมว่ามีทางเลือกมากมายในการช่วยให้เด็กสมาธิสั้นพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น การรักษาต้องใช้เวลาและความอดทน และการผสมผสานวิธีการที่หลากหลาย เช่น การใช้ยา การฝึกสมาธิ และการฝึกสมอง สามารถช่วยให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Brain and Life Center และแนวทางการฝึกสมอง สามารถติดต่อเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ การดูแลเด็กสมาธิสั้นเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ด้วยแนวทางที่เหมาะสม ผู้ปกครองสามารถช่วยให้ลูกมีอนาคตที่สดใสและเต็มไปด้วยโอกาสได้