อัจฉริยะหรือสมาธิสั้น ? ฝึกสมอง จาก เด็กสมาธิสั้น สู่ Gifted Child
หัวข้อย่อย
- เด็กอัจฉริยะหรือ Gifted Child คืออะไร
- ลูกเป็นเด็กอัจฉริยะ VS เด็กสมาธิสั้น ?
- ทริคฝึกสมอง แก้เด็กสมาธิสั้น สู่ Gifted Child
เด็ก ๆ ที่มีอาการดื้อ ซน อยู่ไม่นิ่ง ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นาน พ่อ ๆ แม่ ๆ เคยสงสัยไหมคะว่าพฤติกรรมเหล่านี้ของลูกรักเรานั้นอาจจะไม่ใช่เพราะเขามีอาการเด็กสมาธิสั้น แต่พฤติกรรมเหล่านี้อาจจะบ่งบอกว่าลูกรักของเรานั้นเป็นเด็กอัจฉริยะ (Gifted Child) ก็ได้
แล้วเด็กอัจฉริยะหรือเด็กสมาธิสั้น มีข้อสังเกตอย่างไร ถ้าหากลูกรักของเราเป็นโรคสมาธิสั้นแล้วเขามีโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพจนทำให้เป็นเด็กอัจฉริยะได้หรือไม่ ในบทความต่อไปนี้ เรามีวิธีฝึกสมอง พัฒนาศักยภาพให้ลูกของคุณ หากนำทริคของเราไปฝึกตาม จากเด็กที่เป็นสมาธิสั้นก็อาจเปลี่ยนเป็นอัจฉริยะได้
เด็กอัจฉริยะหรือ Gifted Child คืออะไร
“เด็กอัจฉริยะ ” หรือ “Gifted Child” หรือเมื่อก่อนอาจจะเรียกว่า “เด็กปัญญาเลิศ” คือเด็กฉลาดที่มีความสามารถที่โดดเด่นหรือมีศักยภาพด้านที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน และมักมีความสามารถและประสิทธิภาพหรือความสนใจในหลายด้าน โดยส่วนใหญ่เรื่องที่เด็กอัจฉริยะให้ความสนใจจะเป็นเรื่องที่เด็กในวัยเดียวกันบางคนอาจจะยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ
โดยปกติ เด็กอัจฉริยะ จะมี IQ (Intelligence Quotient) หรือความฉลาดทางสติปัญญา ที่มากกว่าค่าเฉลี่ยของเด็กในวัยเดียวกัน เด็กกิ๊ฟเต็ดอาจมีผลคะแนนไอคิวสูงถึง 130-140 ซึ่งถือว่าเป็นผลคะแนนที่สูงมากเลยทีเดียว
เด็กอัจฉริยะจะมีพัฒนาการที่เร็ว สามารถเรียนรู้ได้ดีกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ซึ่งการเรียนรู้ของ Gifted Child นั้นจะมากกว่าอายุจริงตัวเองไปอีก 2 ขวบปี เช่น เด็กอัจฉริยะที่อายุจริง 7 ขวบ สามารถทำข้อสอบหรือเข้าใจเนื้อหาการเรียนของเด็กปกติที่มีอายุ 9 ขวบได้ เท่ากับว่าอายุสมองของเด็กกิ๊ฟเต็ดนั้นเท่ากับเด็กปกติ 9 ขวบ ทั้ง ๆ ที่อายุจริงของ Gifted Child นั้นเพียงแค่ 7 ขวบ
นอกจากนี้เรายังสามารถแบ่งประเภทของเด็กอัจฉริยะได้ตามความสามารถหรือศักยภาพที่โดดเด่นในด้านนั้น ๆ ได้เช่นกัน โดย Brain ยกตัวอย่างของลักษณะเด็กอัจฉริยะในด้านต่าง ๆ เพื่อให้พ่อแม่สามารถนำไปสังเกตว่าลูกรักของเรานั้นมีความอัจฉริยะในเรื่องใดแฝงอยู่ ดังนี้
วิธีสังเกต เด็ก Gifted
- การเรียนรู้เร็ว Gifted Child อาจมีความสามารถในการเรียนรู้และเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถนำข้อมูลจากหลายแหล่งมาวิเคราะห์และสรุปได้เร็วขึ้น
- การเข้าใจความซับซ้อน มีความสามารถในการเข้าใจและแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน แม้ว่าปัญหาจะมีระดับความยุ่งยากสูง
- การตั้งคำถามและการสังเกต มีความสามารถในการสังเกตและใส่ใจรายละเอียดได้ดี และมักมีคำถามที่สามารถ
- ความสนใจในการเรียนรู้ มีความสนใจอย่างลึกซึ้งในหัวข้อหรือสิ่งที่ให้ความสนใจ และมักมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ
- การจำข้อมูล มีความสามารถในการจดจำข้อมูลที่มากมาย และสามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการแก้ไขปัญหาหรือตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การแก้ปัญหา มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญ โดยใช้วิธีการที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ
- ความสามารถในการรับรู้และเข้าใจความรู้สึก มีความสามารถในการรับรู้และเข้าใจความรู้สึกของตนเองและคนอื่นได้ดี สามารถจัดการกับความรู้สึกของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เด็กกิ๊ฟเต็ด จะเรียนรู้และใช้ทักษะในการจัดการกับความเครียดและความกังวลในชีวิตส่วนตัวหรือชีวิตประจำวันได้ดีกว่าเด็กทั่วไป
- การเข้าสังคม เด็กอัจฉริยะมักมีความสามารถในการเข้ากับผู้อื่นในสังคมอย่างเป็นมิตรและเข้ากันได้ดี พวกเขามักจะมีความสามารถในการเข้าสังคมใหม่ ๆ และมักจะมีเพื่อนสนิทและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมชั้นหรือคนอื่น ๆ
- ความเป็นอิสระและความมั่นคงในตนเอง เด็กอัจฉริยะทางด้านอารมณ์และสังคมมักมีความเชื่อมั่นและความมั่นใจในตนเอง
- ความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการคิดแบบสร้างสรรค์และมีความคิดที่ไม่เหมือนใคร สามารถแสดงความคิดออกมาในรูปแบบของไอเดียใหม่ ๆ ไม่คิดอยู่ในกรอบ มีความสามารถในการสร้างผลงานศิลปะที่มีคุณค่าและน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป, การประดิษฐ์, การปั้น, หรือการสร้างสรรค์ผลงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ
- ความเป็นผู้นำ มีความสามารถในการเป็นผู้นำและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นมีความสามารถในการอยู่ร่วมกับกลุ่มและนำทีม
- อัจฉริยะทางด้านดนตรี มีความสามารถในการเรียนรู้และฝึกฝนการเล่นเครื่องดนตรีอย่างรวดเร็ว
- ความเชี่ยวชาญในสิ่งที่สนใจ มีความเชี่ยวชาญหรือชำนาญในการทำสิ่งที่เขาสนใจได้ดี อาจจะเป็นความสนใจในเรื่องรถ, หุ่นยนต์, จักรวาล, ดวงดาว หรือเรื่องต่าง ๆ ที่ Gifted Child ให้ความสนใจ
อย่างไรก็ตาม เด็ก Gifted แต่ละคนมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน อาจจะไม่ได้มีทั้งหมดตามที่เรากล่าวมาในข้างต้น พ่อแม่และครูควรสังเกตเด็กอย่างใกล้ชิด พูดคุยกับเด็ก สนับสนุนให้เด็กพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่
ลูกเป็นเด็กอัจฉริยะ VS เด็กสมาธิสั้น ?
ในบางครั้งพ่อแม่อาจสงสัยในพฤติกรรมของลูก ว่าลูกของเราเป็น เด็กอัจฉริยะ และเด็กสมาธิสั้น เนื่องจากเด็กอัจฉริยะจะมีพฤติกรรมหรือนิสัยที่ใกล้เคียงกับเด็กสมาธิสั้น อาจจะเป็นพฤติกรรมเด็กอยู่ไม่นิ่ง ค่อนข้างที่จะดื้อและซน ชอบเหม่อลอยหรือโลกส่วนตัวสูง แต่ลักษณะเด็กอัจฉริยะจะแตกต่างจากเด็กสมาธิสั้นตรงที่ เด็กอัจฉริยะเขาจะรู้จักเหตุและผล สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีกว่าเด็กสมาธิสั้น เมื่อมีเรื่องหรือสิ่งที่เขาสนใจเขาจะทำมันได้ดีและสนุกไปกับมัน
เด็กอัจฉริยะจะชอบตั้งคำถามหรือคิดอะไรที่นอกกรอบมากกว่าเด็กทั่วไป จะเป็นข้อแตกต่างที่ค่อนข้างเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่เด็กสมาธิสั้น เพราะ อาการเด็กสมาธิสั้น นอกจาก เด็กไม่อยู่นิ่ง แล้ว ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มักจะงอแง และไม่มีเหตุผล ซึ่งเด็กสมาธิสั้นแต่ละคนก็จะมีอาการหรือพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย
หากพ่อแม่กำลังสงสัยว่าพฤติกรรมหรืออาการของลูกเรานั้นเป็นเด็กอัจฉริยะหรือสมาธิสั้น ทางเราขอแนะนำให้พาลูกรักของท่านเข้าปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราควรพัฒนาหรือแก้ไขพฤติกรรมของลูกเราไปในทิศทางใด ถ้าเขาเป็นเด็กอัจฉริยะเราจะได้หาแนวทางหรือวิธีการที่จะช่วยพัฒนาและดึงศักยภาพของเขาออกมาให้เต็มที่ แต่ถ้าหากเขาเป็นเด็กสมาธิสั้นจะได้หาทางรักษาและแก้ไขให้เขาหายจากอาการสมาธิสั้นได้ถูกวิธี
อ่านเพิ่มเติม
โรคสมาธิสั้น หรือ ADHD คือ โรคทางสมองประเภทหนึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ อาการอาจไม่รุนแรง แต่หากไม่รักษาอาจทำให้เกิดโรคอื่น
ทริคฝึกสมอง แก้เด็กสมาธิสั้น สู่ Gifted Child
ถ้าพ่อ ๆ แม่ ๆ กำลังกังวลว่าพฤติกรรมของลูกเราเสี่ยงที่จะเป็นเด็กสมาธิสั้นแล้วจะไม่สามารถทำให้เขาใช้ชีวิตในสังคมได้ปกติ หากเรารู้จักสังเกตพฤติกรรมลูกตั้งแต่เขายังเล็ก และหาแนวทางหรือวิธีการรักษาภาวะสมาธิสั้นของเขาได้ถูกวิธี จากเด็กที่เป็นสมาธิสั้นก็สามารถพัฒนาให้เป็นเด็กอัจฉริยะได้เช่นกัน
Brain and Life ขอแนะนำทริคฝึกสมองหรือวิธีการที่พ่อ ๆ แม่ ๆ สามารถฝึกสมองให้ลูกรักที่คุณสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ที่บ้าน หาทำตามบ่อย ๆ นอกจากจะช่วยฝึกสมองแล้วยังช่วยพัฒนาศักยภาพของลูกคุณได้อีกด้วย
- เกมฝึกสมอง มีเกมทางด้านสมองที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง เช่น เกมสำหรับฝึกความจำ, เกมที่ต้องการความสนใจและการเรียนรู้, เกมที่ต้องการการวางกลยุทธ์, หรือเกมอื่น ๆ ที่มีการแก้ปัญหาหรือด่านต่าง ๆ ในเกมก็ได้เช่นกัน
- การอ่านและการเรียนรู้ ส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ด้วยหนังสือนิทาน หรือหนังสือภาพที่น่าสนใจและที่เหมาะสมสำหรับระดับอายุของเด็ก จะทำให้เขาเรียนรู้และเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สมองของเด็กจะมีการได้คิด วิเคราะห์ที่ดีจากการอ่านหนังสือ
- การฝึกสมาธิ ใช้เทคนิคการฝึกสมาธิ เช่น การทำสมาธิ, การทำโยคะ ให้เขาได้โฟกัสหรืออยู่กับตัวเอง จะทำให้เขาใจเย็น และมีสมาธิจดจ่อกับการทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
- การแก้ปัญหา ส่งเสริมให้ลูกได้ลองแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตัวเขาเองก่อนที่เราจะเข้าไปช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำ จะทำให้เขาได้ฝึกสมองและใช้ความคิดเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดียิ่งขึ้น
- การเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ ส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์หรือการปฏิบัติจริง เช่น การท่องเที่ยว, การเข้าร่วมกิจกรรมศิลปะ หรือการจำลองหรือทดลองทำต่าง ๆ เอง เช่น ฝึกเขาทานอาหารเองตั้งแต่ 1 ขวบ เมื่อเขาได้รับประสบการณ์โดยตรงจะทำให้เขาสามารถช่วยเหลือตัวเอง และเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ มากกว่าเด็กทั่วไป เมื่อเขารู้สึกสนุกกับการทำอะไรต่าง ๆ ด้วยตัวเอง จะทำให้เขาสนใจหรืออยากจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
- การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้วยการให้เขาได้เข้าร่วมกิจกรรมทางศิลปะ เช่น การวาดภาพ, การแต่งเพลง, การสร้างสรรค์งานฝีมือ จะช่วยให้เขาได้รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบงานศิลปะหรือไม่ เด็กจะได้ฝึกสมองและคิดเกี่ยวกับงานศิลปะมากขึ้น จะสามารถช่วยดึงศักยภาพในเรื่องศิลปะของเขาออกมาได้ เมื่อเขารู้จักศักยภาพของตัวเองจะทำให้เขาพัฒนาความสามารถนั้น ๆ สู่ Gifted Child ได้
- การสนับสนุนการพัฒนาทักษะ สนับสนุนและกระตุ้นให้เด็กได้พัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การฝึกทักษะด้านดนตรี, การฝึกทักษะคณิตศาสตร์, การฝึกทักษะภาษา, หรือการฝึกทักษะเทคโนโลยี หากเขาได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่างจะทำให้เขาได้รู้ว่าตัวเองชอบหรือถนัดอะไร เมื่อเขาได้ฝึกทักษะหรือฝึกสมองในเรื่องต่าง ๆ จะทำให้เขาเก่งในเรื่องนั้น ๆ มากยิ่งขึ้นจนทำให้เชี่ยวชาญและเป็นอัจฉริยะในเรื่องต่าง ๆ ได้
- การสนับสนุนการเรียนรู้ตามความสนใจ สนับสนุนให้เขาได้ทำกิจกรรมหรือเรียนรู้เรื่องที่เขาสนใจ เมื่อรู้ว่าเขามีความสนใจในเรื่องใดให้สนับสนุนในเรื่องนั้นให้เต็มที่ จะทำให้เขามีความสุขและสนุกในการทำเรื่องนั้น ๆ จนอาจทำให้เขากลายเป็นอัจฉริยะในด้านนั้นได้
การจะเปลี่ยนเด็กสมาธิสั้นให้เป็นเด็กอัจฉริยะได้ พ่อแม่ต้องรู้จักลูกของตัวเองให้ดีพอ ว่าลูกของเรานั้นมีจุดบกพร่องหรือต้องแก้ไขปัญหาในด้านใด การทำแบบทดสอบวัดผลทางสมองจะบอกได้ว่าเด็กแต่ละคนมีจุดอ่อนหรือจุดแข็งในเรื่องใดบ้าง เมื่อเราทราบถึงปัญหาที่แท้จริงจะทำให้เราไม่เสียเวลาในการหาวิธีการฝึกสมองหรือพัฒนาศักยภาพให้ลูกของเรา
หากพ่อแม่สนใจพัฒนาศักยภาพให้ลูกรักจากเด็กที่อาจจะมีภาวะสมาธิสั้น ให้เป็นเด็กอัจฉริยะ วันนี้ Brain ขอแนะนำแบบทดสอบ Gibson Test ที่จะทำให้คุณรู้ว่าลูกรักของคุณมีความถนัดในทักษะสมองในด้านใดบ้าง และเมื่อเด็ก ๆ ได้รู้จักตัวเองว่าเขามีจุดอ่อนและจุดแข็ง หรือมีความบกพร่องและความถนัดในเรื่องใด จะทำให้เราสามารถช่วยพัฒนาและแก้ไขทักษะนั้น ๆ ได้อย่างตรงจุด รวมถึงช่วยดึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของเขาออกมาได้