
เด็กชอบขโมยของ? เป็น ADHD หรือไม่
พฤติกรรมเด็กชอบขโมยของอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวลและสงสัยว่าเกิดจากอะไร บางท่านอาจคิดไปไกลถึงภาวะ สมาธิสั้น (ADHD) หรือ attention deficit hyperactivity disorder คือภาวะที่เกิดจากสมองส่วนหน้า ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมสมาธิ มีการทำงานลดลง ทำให้เด็กควบคุมตัวเองได้ยาก การยับยั้งชั่งใจไม่ได้ และอยู่ไม่นิ่ง หรือปัญหาพฤติกรรมเด็ก ด้านจิตวิทยาเด็กอื่นๆ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจวินิจฉัยอะไร เราควรทำความเข้าใจที่มาของพฤติกรรมนี้ก่อน
สารบัญ
- ทำไมเด็กชอบขโมยของ?
- เด็กชอบขโมยของเกี่ยวข้องกับ ADHD หรือไม่?
- ความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมขโมยของในเด็กทั่วไปและเด็ก ADHD
- วิธีแยกแยะระหว่าง ADHD กับสาเหตุอื่นๆ
- ADHD วินิจฉัย และพฤติกรรมเด็กที่ขโมยของ
- การช่วยเหลือเด็กที่มีพฤติกรรมขโมยของ
- สรุปรอคิว “ตรวจสมาธิสั้น” นาน ทำอย่างไรไม่ให้ลูกเสียโอกาสพัฒนา?

ทำไมเด็กชอบขโมยของ?
ขโมยของ เป็นปัญหาพฤติกรรมเด็กที่พบได้บ่อย และมักทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวล สับสน หรือแม้แต่โกรธ ก่อนที่จะตัดสินหรือลงโทษเด็ก เราควรทำความเข้าใจว่าทำไมเด็กชอบขโมยของ อย่างละเอียด เพื่อหาวิธีรับมือที่เหมาะสมและช่วยให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้
1. เด็กยังไม่เข้าใจแนวคิดของ “ความเป็นเจ้าของ“
เด็กเล็กโดยเฉพาะวัยก่อนประถม (อายุ 3-6 ปี) อาจยังไม่เข้าใจแนวคิดของ “ความเป็นเจ้าของ” พวกเขาอาจคิดว่า “ถ้าฉันอยากได้ ฉันก็เอามาได้” โดยไม่รู้ว่าการขโมยของเป็นสิ่งผิด เพราะเด็กวัยนี้ยังไม่สามารถแยกแยะระหว่างสิ่งที่ตัวเองมีกับสิ่งที่คนอื่นมีได้ชัดเจน
2. ขาดการควบคุมตนเอง (Impulse Control)
เด็กบางคนอาจยังไม่สามารถควบคุมความต้องการหรืออารมณ์ของตัวเองได้ดี โดยเฉพาะเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น หรือปัญหาด้านการควบคุมตนเอง (Impulse Control Disorders) พวกเขาอาจทำสิ่งต่างๆ โดยไม่คิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมา
3. การเรียกร้องความสนใจ
บางครั้งพฤติกรรมขโมยของอาจเป็นวิธีที่เด็กใช้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ใหญ่ หากเด็กรู้สึกว่าถูกมองข้ามหรือไม่ได้รับความสนใจเพียงพอ เขาอาจทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ใหญ่หันมาสนใจ
4. ปัญหาด้านจิตวิทยาเด็ก
พฤติกรรมขโมยของอาจเป็นสัญญาณของปัญหาด้านจิตวิทยาเด็ก เช่น
- ความเครียด เด็กอาจขโมยของเพื่อลดความเครียดหรือรู้สึกดีชั่วคราว
- ภาวะซึมเศร้า เด็กบางคนอาจแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกภายใน
- ปัญหาด้านการปรับตัว เด็กที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต เช่น ย้ายบ้าน เปลี่ยนโรงเรียน หรือพ่อแม่แยกทาง อาจแสดงพฤติกรรมขโมยของเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน
5. สภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูเด็ก
สภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กมีผลต่อพฤติกรรมอย่างมาก เช่น
- การขาดระเบียบวินัย หากเด็กไม่ได้รับการสอนเรื่องกฎเกณฑ์และขอบเขตที่ชัดเจน เขาอาจไม่เข้าใจว่าการขโมยของเป็นสิ่งผิด
- การเลียนแบบพฤติกรรม เด็กอาจเลียนแบบพฤติกรรมจากผู้ใหญ่หรือเพื่อนที่ขโมยของ
- การขาดความใกล้ชิดในครอบครัว เด็กที่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือขาดความรักจากครอบครัว อาจแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมเพื่อเติมเต็มความรู้สึกนั้น
- ข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ เด็กอาจรู้ว่าครอบครัวมีเงินไม่มาก จึงไม่ขอของจากพ่อแม่
- อิทธิพลจากเพื่อนหรือสังคม เด็กอาจขโมยของเพื่อให้ตัวเองดู “เท่” หรือเป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อน
พฤติกรรมเด็กชอบขโมยของอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งด้านพัฒนาการ อารมณ์ จิตวิทยาเด็ก และสภาพแวดล้อม การทำความเข้าใจที่มาของพฤติกรรมนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รับมือได้อย่างเหมาะสม และช่วยให้เด็กปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ในที่สุด หากพฤติกรรมนี้ยังไม่ดีขึ้นหรือมีสัญญาณของปัญหาด้านจิตวิทยาเด็ก การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเช่น จิตแพทย์เด็กหรือนักจิตวิทยาเด็กจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
เด็กชอบขโมยของเกี่ยวข้องกับ ADHD หรือไม่?
โรคสมาธิสั้น มักมีลักษณะหุนหันพลันแล่น ขาดการจดจ่อ จนทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมโดยไม่คิดได้ ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของเด็ก แต่เป็นผลจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับลักษณะการทำงานของสมอง ซึ่งพฤติกรรมเด็กขโมยของ ไม่ใช่ลักษณะเฉพาะของ ADHD แต่เด็กที่มีภาวะ ADHD อาจมีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมนี้ได้มากกว่าเด็กทั่วไป
ความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมขโมยของในเด็กทั่วไปและเด็ก ADHD
พฤติกรรมเด็กชอบขโมยของอาจพบได้ทั้งในเด็กทั่วไปและเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น (ADHD) แต่สาเหตุและลักษณะของพฤติกรรมนี้มักมีความแตกต่างกัน
1. พฤติกรรมเด็กทั่วไป มักเกิดจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการตามวัย สภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู หรือการเรียนรู้
2. พฤติกรรมเด็ก ADHD มักเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านการควบคุมตนเอง (Impulse Control) และความหุนหันพลันแล่น (Impulsivity) เด็กมักทำโดยไม่คิดถึงผลลัพธ์
วิธีแยกแยะระหว่าง ADHD กับสาเหตุอื่นๆ
หากคุณสงสัยว่าลูกมีพฤติกรรมขโมยของอละอาจจะมีภาวะที่เกี่ยวข้องกับ ADHD ควรสังเกตอาการอย่างละเอียด และควรสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย
- สังเกตอาการ ADHD
- ขาดสมาธิ ลูกไม่สามารถจดจ่อกับงานหรือกิจกรรมได้นาน
- ซนมาก ลูกเคลื่อนไหวตลอดเวลาและไม่สามารถนั่งนิ่งได้
- หุนหันพลันแล่น ลูกทำสิ่งต่างๆ โดยไม่คิดถึงผลลัพธ์
- วิเคราะห์สภาพแวดล้อมและปัจจัยอื่นๆ
หากลูกไม่มีอาการของ ADHD แต่ยังชอบขโมยของ ให้ลองวิเคราะห์สภาพแวดล้อมและปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อพฤติกรรมนี้ เช่น ลูกขโมยของเล่นจากเพื่อน แต่ไม่มีอาการขาดสมาธิหรือซนมาก อาจเป็นเพราะลูกยังไม่เข้าใจแนวคิดของความเป็นเจ้าของ หรือเกิดจากการเลี้ยงดู ข้อจำกัดต่าง ๆ
ADHD วินิจฉัย และพฤติกรรมเด็กที่ขโมยของ
การวินิจฉัย ADHD ไม่สามารถทำได้จากการสังเกตเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยกระบวนการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น จิตแพทย์เด็ก นักจิตวิทยาเด็ก หรือกุมารแพทย์ โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
- การประเมินอาการ ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินอาการของเด็กตามเกณฑ์การวินิจฉัย ADHD
- เกณฑ์การวินิจฉัย อาการต้องปรากฏต่อเนื่องนานอย่างน้อย 6 เดือน
ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น การเรียน ความสัมพันธ์กับเพื่อน หรือการอยู่ร่วมกันในครอบครัว และอาการต้องปรากฏก่อนอายุ 12 ปี
- การเก็บข้อมูลจากหลายแหล่ง ประเมินพฤติกรรมของเด็กที่บ้าน โรงเรียน และ ผู้เชี่ยวชาญสังเกตพฤติกรรมเด็กโดยตรง
- การทดสอบเพิ่มเติม ผู้เชี่ยวชาญใช้แบบทดสอบหรือเครื่องมือประเมินเพิ่มเติม เพื่อแยกแยะภาวะอื่นๆ ที่อาจมีอาการคล้ายสมาธิสั้น
วินิจฉัย ADHD และการวิเคราะห์พฤติกรรมเด็กที่ชอบขโมยของเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการสังเกต การประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ และการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ รอบตัวเด็ก หากสงสัยว่าลูกอาจมีภาวะสมาธิสั้น หรือมีปัญหาด้านพฤติกรรม การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญคือทางออกที่ดีที่สุด เพื่อให้เด็กได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสมและทันท่วงที

วิธีช่วยเหลือเด็กที่มีพฤติกรรมขโมยของ
เด็กที่มักมีพฤติกรรมขโมยของเนื่องจากปัญหาด้านการควบคุมตนเอง (Impulse Control) และความหุนหันพลันแล่น (Impulsivity) ซึ่งเป็นมีอาการคล้ายกับสมาธิสั้น การช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ต้องอาศัยความเข้าใจ และวิธีการที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและพัฒนาทักษะการควบคุมตนเองได้ วิธีช่วยเหลือเด็กมีดังนี้
1. ทำความเข้าใจที่มาของพฤติกรรม การช่วยเหลือเริ่มจากการค้นหาว่าทำไมเด็กถึงขโมยของ เพราะการขโมยของในเด็กแต่ละคนอาจเกิดจากปัจจัยที่แตกต่างกัน เช่น ความไม่รู้ การเรียกร้องความสนใจ
2. พูดคุยอย่างเปิดใจและไม่ตำหนิ เมื่อพบว่าลูกขโมยของ สิ่งสำคัญคือต้องพูดคุยกับลูกอย่างใจเย็นและเข้าใจ ไม่ใช่ตำหนิหรือกล่าวโทษ เพราะการตำหนิอาจทำให้เด็กปิดกั้นตัวเองและไม่ยอมเปิดเผยความจริง
3. สอนเรื่องความเป็นเจ้าของและความรับผิดชอบ เด็กบางคนอาจยังไม่เข้าใจเรื่องความเป็นเจ้าของและกฎเกณฑ์ในสังคม ผู้ปกครองควรสอนเรื่องนี้อย่างชัดเจน
4. ฝึกควบคุมอารมณ์และแรงกระตุ้น เด็กที่มีความหุนหันพลันแล่นหรืออารมณ์รุนแรง เช่น เด็ก ADHD มักมีปัญหาในการหยุดตัวเองเมื่อเกิดแรงกระตุ้น การช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีควบคุมตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ
5. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สภาพแวดล้อมในบ้านมีบทบาทสำคัญในการลดพฤติกรรมขโมยของ เช่น ให้ความอบอุ่นและความรักแก่ลูก และเป็นแบบอย่างที่ดี
6. การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากพฤติกรรมขโมยของยังคงอยู่และมีความรุนแรง เช่น ขโมยบ่อย หรือขโมยของที่มีมูลค่าสูง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น
นักจิตวิทยาเด็ก เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและสาเหตุเชิงลึก
นักกิจกรรมบำบัด หากพฤติกรรมขโมยเกิดจากภาวะสมาธิสั้นหรือความบกพร่องทางอารมณ์
สรุปเด็กชอบขโมยของ? เป็น ADHD หรือไม่
พฤติกรรม เด็กชอบขโมยของ อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากการเลี้ยงดู พฤติกรรมเด็กในช่วงพัฒนาการ หรือสัญญาณของปัญหาเชิงลึก เช่น การวิเคราะห์สาเหตุอย่างละเอียดและการวินิจฉัยจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้พ่อ แม่เข้าใจและเลือกวิธีช่วยเหลือลูกได้อย่างเหมาะสม หากสงสัยว่าลูกมีปัญหาด้านพฤติกรรม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยาเด็ก หรือแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินและวางแผนช่วยเหลืออย่างถูกต้อง
Brain and Life Center พร้อมให้คำปรึกษาและโปรแกรมพัฒนาทักษะสมอง โดยการใช้แบบทดสอบ Gibson Test เป็นแบบทดสอบทักษะสมองในส่วนกระบวนการคิดและการเรียนรู้ เพื่อวิเคราะห์เบื้องต้นเกี่ยวกับพัฒนาการด้านสมาธิและการเรียนรู้ของเด็ก แบบทดสอบนี้สามารถช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้เข้าใจสถานการณ์ของลูกในเบื้องต้นก่อนที่จะพบแพทย์และดำเนินการต่อไป
