โรคการเรียนรู้บกพร่อง หรือ โรค LD รักษา ที่ไหน?
เมื่อพบว่าลูกมีพฤติกรรมที่บ่งบอกว่าอาจมีภาวะ LD (learning disorder) ควรพาไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วเพื่อการช่วยเหลือที่ตรงจุด การวินิจฉัยหาสาเหตุ และเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านต้องการคำตอบ คือ โรค LD รักษา ที่ไหน? บทความนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรค LD การเลือกสถานพยาบาลที่เหมาะสม การประเมินโรค รวมถึงค่าใช้จ่ายและสถานที่สำหรับพัฒนาลูก เพื่อให้พ่อแม่ได้รับข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา
สารบัญ
- โรค LD คืออะไร?
- เมื่อรู้ว่าลูกเป็น LD ต้องทำอย่างไร?
- รักษาโรค LD ต้องทำอย่างไรบ้าง?
- การประเมินโรค LD
- ขั้นตอนการรักษาโรค LD
- ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค LD
- ยารักษาโรค LD จำเป็นต้องกินไหม
- โรค LD รักษา ที่ไหน?
- แนะนำสถานที่หรือศูนย์ที่สามารถตรวจวินิจฉัย เด็ก LD ในประเทศไทย
- สรุปเด็ก LD รักษาหายได้
โรค LD คืออะไร?
โรค LD คือ ภาวะความบกพร่องในการเรียนรู้ที่ทำให้เด็กมีปัญหาทางการเรียนใน เช่น การอ่าน การเขียน การคิดเลข โรคนี้ไม่ได้เกิดจาก เด็กไม่ตั้งใจเรียน หรือขาดความสามารถ แต่เป็นผลจากกระบวนการเรียนรู้ที่มีปัญหา แต่เด็กที่เป็น LD ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถเรียนรู้ได้ แต่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสมเพื่อให้เด็กสามารถพัฒนาและเรียนรู้ได้ปกติ
เมื่อรู้ว่าลูกเป็น LD ต้องทำอย่างไร?
คุณพ่อคุณแม่อาจรู้สึกกังวลและไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน เมื่อรู้ว่าลูกเป็น LD แต่สิ่งแรกที่ควรทำ คือ อย่าตื่นตระหนก และ ทำความเข้าใจ เพราะโรคนี้รักษาได้หากได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ลูกสามารถเรียนได้ปกติิ
สิ่งที่ผู้ปกครองควรทำเมื่อทราบว่าลูกเป็น LD
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ พาลูกพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก หรือ นักจิตวิทยา เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- พูดคุยกับคุณครูและโรงเรียน เพื่อหาวิธีการประเมินผลเด็ก ๆ ที่อาจจะแตกต่างจากเด็กคนอื่น หรือวิธีการเรียนการสอนที่เหมาะสม
- หากิจกรรมอื่น ๆ ให้เขา ได้เรียนรู้ ทักษะที่บกพร่องของโรคนี้ เช่น การอ่าน การเขียน การคำนวณ หากิจกรรมเพิ่มเติมที่ให้ลูกได้ฝึกทักษะเหล่านี้ทีละนิดเพื่อช่วยให้เด็กเข้าใจและเรียนรู้ได้มากขึ้น
- สังเกตและประเมินอาการเป็นประจำ เพราะบางครั้งโรค LD อาจเกิดร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น โรคสมาธิสั้น หรือภาวะซึมเศร้า
รักษาโรค LD ต้องทำอย่างไรบ้าง?
โรค LD (Learning Disorder) หรือ โรคบกพร่องทางการเรียนรู้ ยังไม่มียาตัวที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่มีวิธีรักษาที่ช่วยให้ เด็ก LD สามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้น หากเด็กได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ และรักษาที่ถูกวิธี เด็กก็จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นและสามารถหายได้ โดยไม่ต้องทานยา ซึ่งการรักษาจะเน้นไปที่การเสริมสร้างทักษะที่บกพร่อง และปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน
การประเมินโรค LD
ก่อนเริ่มการรักษา ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินเพื่อวินิจฉัยโรค LD อาจรวมถึงการสอบถามรายละเอียดกับพ่อคุณแม่และเด็ก การทดสอบทางจิตวิทยา และการสังเกตพฤติกรรม ต้องอาศัยข้อมูลหลายส่วนอย่างละเอียด รวมถึงตรวจพัฒนาการที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งขั้นตอนการประเมินจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ทราบว่าลูกมีปัญหาด้านใด และมีแนวทางในการดูแลและพัฒนาได้อย่างไร
ขั้นตอนการรักษาโรค LD
การรักษาโรค LD มักเป็นการฝึกทักษะ ปรับพฤติกรรม และการบำบัดพิเศษ เพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้ตามวัยและสามารถปรับตัวกับสถานการณ์การเรียนรู้ในโรงเรียนได้ การรักษาจะถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล ขึ้นอยู่กับความต้องการของเด็กในแต่ละราย บางครั้งอาจต้องการการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ เช่น นักบำบัดการพูด นักกายภาพบำบัด หรือครูพิเศษเพื่อช่วยในการพัฒนา
ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค LD
ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค LD จะแตกต่างกันไปตามสถานพยาาบาลและวิธีการรักษา ซึ่งค่าใช้จ่ายอาจรวมถึงการประเมิน การบำบัด และการฝึกทักษะ คุณพ่อคุณแม่ควรประเมนิความพร้อมของค่าใช้จ่ายในแต่ละส่วน เพื่อให้สามารถวางแผนงบประมาณในการดูแลลูกได้อย่างเหมาะสม
ค่าใช้จ่ายในการประเมินโรค LD
การประเมินโรค LD เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญเพื่อระบุว่าเด็กมีปัญหาด้านการเรียนรู้อย่างไร และควรใช้วิธีการรักษาใด การประเมินนี้มักรวมถึงการทดสอบทักษะการอ่าน การเขียน การคิดเลข รวมถึงการทดสอบทางจิตวิทยาและพัฒนาการ ค่าใช้จ่ายสำหรับการประเมินโรค LD จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานที่ เช่น:
- โรงพยาบาลรักษาโรค LD หรือคลินิกโรค LD ค่าใช้จ่ายการประเมินที่โรงพยาบาลรัฐมักจะเริ่มต้นที่ประมาณ 3,000-5,000 บาท ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกเฉพาะทางอาจมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 5,000-15,000 บาท ซึ่งครอบคลุมการตรวจสุขภาพจิตและการประเมินทักษะการเรียนรู้พื้นฐาน
- ศูนย์พัฒนาเด็ก LD ศูนย์พัฒนาทักษะสมองและศูนย์พัฒนาเด็ก LD บางแห่งอาจเสนอการประเมินเฉพาะด้าน ค่าใช้จ่ายสำหรับการประเมินที่ศูนย์ดังกล่าวมักจะอยู่ในช่วง 3,000-10,000 บาท
ค่าใช้จ่ายในการบำบัด
การฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การคิดเลข และการฝึกการจดจ่อ การรักษานี้สามารถทำได้ผ่านการเข้าคอร์สบำบัดในคลินิก หรือการเรียนพิเศษที่มีการฝึกทักษะเฉพาะด้าน
- การบำบัดในคลินิก LD หรือ ศูนย์พัฒนาเด็ก LD เฉพาะทาง มักมีค่าใช้จ่ายประมาณ 500-1,500 บาทต่อครั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้อาจต้องจ่ายเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือนตามแผนการรักษา และอาจมีคอร์สบำบัดพิเศษที่มุ่งเน้นทักษะเฉพาะด้าน ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่แต่ละคลินิก
- คอร์สพัฒนาทักษะ ค่าใช้จ่ายในการเรียนเพิ่มเติมกับครูที่มีความเชี่ยวชาญในการสอนเด็ก LD มักจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,500 บาทต่อชั่วโมง บางคอร์สเรียนอาจเป็นการบำบัดกลุ่มเป็นวิธีการที่ช่วยให้เด็กได้ฝึกทักษะทางสังคมและพัฒนาความสามารถในการเข้าสังคม
Brain and Life เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการรักษา โดยสถาบัน จะออกแบบโปรแกรมให้เหมาะกับทักษะของเด็กแต่ละคนโดยเฉพาะ ฝึกกับผู้เชี่ยวชาญตัวต่อตัวดูแลอย่างใกล้ชิด ดูแลได้ทั่วถึงและพัฒนาได้ไว ผู้เชี่ยวชาญใช้เกมกิจกรรมบำบัด เพื่อเสริมทักษะที่บกพร่อง และฝึกทักษะที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ให้ลูกคนสามารถเรียนรู้ได้ตามปกติเหมือนเด็กทั่วไป
ยารักษาโรค LD จำเป็นต้องกินไหม
ยาไม่ได้เป็นแนวทางหลักในการรักษาโรค LD เนื่องจากโรคการเรียนรู้บกพร่องเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านการประมวลผลทางสมองซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับสารเคมีในสมองโดยตรง การรักษา เด็ก LD จึงมุ่งเน้นที่การบำบัดพฤติกรรมและการฝึกทักษะการเรียนรู้เฉพาะด้าน เช่น การอ่าน การเขียน หรือการคิดเลข อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่เด็กมีภาวะแทรกซ้อน เช่น สมาธิสั้น ซึมเศร้า วิตกกังวล อาจจำเป็นต้องใช้ยาร่วมด้วย เพื่อช่วยให้เด็กสามารถมีสมาธิ ควบคุมตนเอง และลดความเครียดที่เกิดขึ้น แต่ไม่ช่วยแก้ปัญหาการเรียนรู้โดยตรง
โรค LD รักษา ที่ไหน?
เมื่อได้รับการประเมินแล้ว การเลือกสถานที่ในการรักษาโรค LD ที่สามารถรักษาและช่วยพัฒนาเด็ก มีความสำคัญเนื่องจากการรักษาโรคนี้ต้องใช้การดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ
โรงพยาบาลรักษาโรค LD มีทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนมีศูนย์สุขภาพเด็กที่มีบริการประเมินและรักษาโรค LD ซึ่งสามารถวินิจฉัยและประเมินความบกพร่องในการเรียนรู้ของเด็กได้
- โรงพยาบาลรัฐ มีแผนกเฉพาะทางด้านจิตเวชและพัฒนาการเด็ก เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าสถานพยาบาลอื่น แต่ในบางครั้งอาจต้องรอคิวนานเนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมาก
- โรงพยาบาลเอกชน เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และโรงพยาบาลสมิติเวช มีบริการวินิจฉัยและรักษาโรค LD ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่าโรงพยาบาลรัฐ แต่จะได้รับการดูแลและสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง
- คลินิกโรค LD คลินิกเฉพาะทางที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้และการพัฒนาเด็ก เช่น คลินิกจิตวิทยาเด็ก หรือคลินิกพัฒนาการ โดยใช้เทคนิคและวิธีการที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาทักษะ เช่น การฝึกสมาธิ การฝึกทักษะการอ่านและการเขียน ซึ่งสามารถช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้
Brain and Life สถาบันฝึกพัฒนาทักษะสมอง ให้บริการทดสอบทางสมองและพัฒนาการเด็ก สามารถเข้ามาปรึกษาได้ทั้งออนไลน์และออนไซต์ โดยไม่ต้องรอคิวนาน ใช้การทดสอบประเมินทักษะสมอง 7 ด้าน เพื่อตรวจหาทักษะที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ ทักษะที่ต้องพัฒนา และ ออกแบบคอร์สฝึกสมองเฉพาะบุคคล แก้ปัญหาได้ถูกจุด จึงตอบโจทย์พ่อแม่ที่กำลังมองหาการเรียนเพื่อฝึกทักษะการเรียนรู้ให้สมวัย เพื่อเพิ่มศักยภาพสมองและทักษะให้ลูก
แนะนำสถานที่หรือศูนย์ที่สามารถตรวจวินิจฉัย เด็ก LD ในประเทศไทย
สถานที่สำหรับตรวจวินิจฉัย โรค LD (Learning Disorder) ในประเทศไทยมีให้บริการหลากหลายทั่วประเทศ โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่มีแผนกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น รวมถึงคลินิกพัฒนาการเด็กที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจและประเมินภาวะนี้ เราได้รวบรวมรายชื่อสถานพยาบาลจากทุกภาคทั่วประเทศที่คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเด็ก ๆ เข้ารับการวินิจฉัยภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้หรือ LD ได้
ที่มาจาก: aksorn.com
สรุปเด็ก LD รักษาหายได้
การรักษาโรค LD ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ และได้รับการรักษาในสถานพยาบาลที่เหมาะสม เช่น โรงพยาบาล คลินิกเฉพาะทาง ศูนย์พัฒนาเด็ก LD รวมถึงขั้นตอนการรักษาและค่าใช้จ่ายเบื้องต้น เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ เด็ก LD สามารถรักษาหายได้ถ้าได้รับการดูแลที่เหมาะสมและคอยฝึกทักษะที่ขาดไป เช่น การอ่าน เขียน และการคำนวณ โดยไม่จำเป็นต้องกินยาหากไม่มีภาวะอื่นแทรกซ้อน
Brain and Life Center เป็นศูนย์พัฒนาสมองและการเรียนรู้ที่เชี่ยวชาญในการดูแลเด็ก LD มีโปรแกรมการฝึกทักษะที่เหมาะสมกับทักษะของเด็กในแต่ละวัย มีผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษาและแนะนำอย่างใกล้ชิด การดูแลเด็กอย่างเหมาะสมจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการในด้านการเรียนรู้ที่ดีขึ้นและสามารถช่วยให้เด็ก LD มีการเรียนรู้ได้เหมือนเด็กทั่วไป
