คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BRAIN AND LIFE CENTER
● ผู้ที่อยากพัฒนาศักยภาพในตัวเอง
● ผู้ที่อยากรู้จักตัวเองมากขึ้น
● ผู้ที่อยากพัฒนาด้านความจำ
● ผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองสมาธิสั้น ADHD
● ทุกคนที่อยากพัฒนาสมอง
BrainRX จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุโดยจะทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น
1. ช่วยพัฒนาในส่วนที่ไม่ถนัดให้เก่งขึ้นและและมีทักษะความสามารถรอบด้าน
2. ช่วยพัฒนาศักยภาพของสมองในทุก ๆ ด้านซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงการทำงานของสมองอย่างแท้จริง
3. ช่วยเพิ่ม Mental Excecies เป็นการดึงอัจฉริยภาพของสมองมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
1. การฝึกอบรมสมองแบบตัวต่อตัว One-On-One Training Brain Training 1 : 1
การฝึกสมองแบบตัวต่อตัว ผู้เรียนจะได้ทำกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะด้านต่างๆ ในการคิด เพื่อกระตุ้นการพัฒนาประสิทธิภาพสมอง โดยกิจกรรมต่างๆ จะคล้ายกับการเล่นเกมส์มากกว่าการเรียน ทำให้ผู้เรียนมีความสนุกสนานระหว่างการฝึก ซึ่งผลจากการฝึกโปรแกรมทั้งสองอย่างควบคู่กัน เสริมสร้างความสามารถของสมองในด้านการคิด (Cognitive Thinking), การอ่าน (Reading), การเรียนรู้ (Learning), การใช้เหตุผล (Reasoning), ส่งเสริมด้านความจำและการใช้สมาธิ (Memory&Concentration)
2. Brain Training with Computer Program
การฝึกสมองด้วยคอมพิวเตอร์ ผู้เรียนจะได้ฝึกทักษะทางการคิดด้านต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มสมรรถนะการเรียนรู้ของสมอง ซึ่งเราจะฝึกด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคู่ไปกับการฝึกสมองแบบตัวต่อตัว ผลจากการฝึกโปรแกรมทั้งสองอย่างควบคู่กัน จะทำให้ผู้เข้าร่วมโปรแกรมในทุกช่วงวัยสามารถที่จะพัฒนาสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ทักษะส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์กันค่ะ ทักษะทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเรียนรู้ เด็กที่มีทักษะสูงจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเรียนรู้ที่ดี หากเรียนรู้ได้ดี เด็กจะมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น กล้าเข้าสังคม และเข้าอกเข้าใจคนอื่นด้วยค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BRAIN TEST
Brain Test คือ การทดสอบทักษะการทำงานของสมองในด้านต่าง ๆ
1. ทักษะด้านความจำระยะยาว / Long-term Memory
2. ทักษะด้านความจำในการทำงาน / Working Memory
3. ทักษะด้านกระบวนการมองภาพ / Visual Processing
4. ทักษะด้านตรรกะและเหตุผล / Logic & Reasoning
5. ความเร็วในการประมวลผล / Processing Speed
6. ทักษะด้านกระบวนการได้ยินเสียง / Auditory Processing
7. ทักษะด้านภาษา / English Word Attack
เริ่มต้นที่อายุ 4 ปีขึ้นไปค่ะ โดยจะแบ่งการเรียนเป็นระดับอายุและปัญหาที่ผู้เรียนต้องการแก้ไข
ใช่ค่ะ ในเบื้องต้นจะต้องทำการทดสอบก่อนนะคะ เพื่อจะได้ทราบว่าน้องการถนัด และไม่ถนัดในด้านใด จะได้โฟกัสในด้านนั้นและพัฒนาศักยภาพในทุกๆด้านของน้องได้อย่างตรงจุดนะคะ
ทักษะเหล่านี้จำเป็นต่อการเรียนรู้ หากเด็กที่มีทักษะที่ดี จะสามารถเรียนรู้ได้ไวกว่าเด็กที่มีทักษะน้อยกว่าค่ะ
เช่น เด็ก 2 คนอ่านหนังสือ คนนึงใช้เวลาอ่านรอบเดียว แต่อีกคนต้องใช้เวลา 2-3 รอบเพื่อเข้าใจและจำเนื้อหาเดียวกันค่ะ
สิ่งที่ต่างกันคือเด็กมีทักษะทางสมองที่ต่างกันค่ะ
เมื่อทดสอบแล้ว การแปลผลการทดสอบจะทราบได้ว่าน้องถนัดหรือไม่ถนัด มีหรือขาดทักษะทางสมองที่จำเป็นต่อการเรียนรู้มากน้อยแค่ไหนคะ
เมื่อทดสอบแล้วจะทราบได้ว่ามีหรือขาดทักษะทางสมองที่จำเป็นต่อการเรียนรู้มากน้อยแค่ไหน และมีทักษะไหนที่ควรพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพค่ะ
จุดอ่อนและจุดแข็งของทักษะการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ ซึ่งทักษะในการเรียนรู้ควรพัฒนาในทุก ๆ ด้านอย่างใกล้เคียงกันค่ะ ถ้ามีทักษะไหนเป็นพัฒนาได้ไม่ทันทักษะอื่นๆ อาจทำให้ใช้ศักยภาพของสมองได้ไม่เต็มที่ค่ะ
ทดสอบแค่ครั้งเดียวก่อนเรียน แต่หากต้องการสามารถทดสอบซ้ำหลังเรียนเพื่อเปรียบเทียบผลการฝึกได้นะคะ
สามารถช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น หากเราไม่รู้ว่าตัวเองมีศักยภาพตรงไหนที่ควรพัฒนา เราจะสามารถมุ่งไปได้ตรงจุดค่ะ
ก่อนที่จะเรียนรู้เรื่องอื่น ๆ หากเรารู้จักตัวเองว่าเรามีจุดอ่อนในการเรียนรู้ตรงไหน จะสามารถช่วยให้เราพัฒนาตนเองและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้นค่ะ
ตอนนี้การทดสอบ Brain Test เป็นราคาโปรโมชั่นเหลือราคา 1,800 บาท จากราคาเต็ม 2,500 บาทค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Brain Training
1. ฝึกทักษะของสมองที่ใช้ในการคิด การเรียนรู้ การอ่าน การมีเหตุมีผล ความจำ สมาธิและการจดจ่อ
2. โปรแกรมของเราไม่ได้สอนเนื้อหาความรู้ แต่เราจะเปลี่ยนวิธีคิดของสมองในการรับข้อมูลเข้ามาและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร
3. ผสมผสานระหว่างการฝึกสมองแบบตัวต่อตัว (การฝึกระหว่างเทรนเนอร์กับนักเรียน) และการฝึกสมองแบบดิจิตอล (การฝึกบนคอมพิวเตอร์)
4. ผู้เรียนจะมีความสนุกสนานในการฝึก เป็นการออกกำลังกายสมองโดยการเล่นเกม และมีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในการปรับปรุงประสบการณ์เดิมของสมอง ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของกระบวนการคิดที่ดีขึ้น
5. ช่วยเพิ่มทักษะของสมองที่เราใช้ในโรงเรียน ที่ทำงาน และในชีวิตประจำวัน กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เมื่อสมองยิ่งดี…ชีวิตก็ง่ายขึ้น
ผู้เรียนจะได้ฝึกฝนกับคุณครูผู้สอนตัวต่อตัว ทำกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะต่างๆในการพัฒนา ร่วมกับการฝึกฝนโดยระบบคอมพิวเตอร์ที่เป็นหลักสูตรของ BrainRx อเมริกาถูกออกแบบมาโดยนักเรียนแต่ละคนตามผลการทดสอบ Brain test ของผู้เรียน
จะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยสามารถจัดสรรเวลาเรียนได้ ไม่ว่าจะเรียนที่สถาบันหรือรูปแบบออนไลน์
ผู้เรียนจะได้รับการกระตุ้นด้านที่สำคัญ 7 ด้าน (The Seven Key Brain Skills) ผ่านทักษะต่างๆ ที่เป็นการพัฒนาสมองในรูปแบบกิจกรรมที่ผ่านการรับรองจากสถาบันและงานวิจัยต่างๆมากมาย กิจกรรมถูกออกแบบมาให้มีความสนุกสนานอีกทั้งยังช่วยด้านอารมณ์อีกด้วย คือ
1. การมีสมาธิจดจ่อ (Attention)
2. การใช้ความจำในการทำงาน-เรียน (Working Memory)
3. ความจำระยะยาว (Long-Term Memory)
4. ความเร็วในการประมวลผล (Processing Speed)
5. ตรรกะและเหตุผล (Logic & Reasoning)
6. ด้านการมองเห็น (Visual Processing)
7. การประมวลผลทางเสียงและการได้ยิน (Auditory Processing)
ผู้ปกครองจะได้รับรายงานการเรียนหลังจบการสอนทุกครั้งและมีส่วนร่วมในการประเมินผลและวางรูปแบบการเรียนการสอนของผู้เรียน
เรามีศักยภาพมากมายอยู่ในตัวค่ะ หากแต่บางครั้งเราไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่ การฝึกสมองจะช่วยพัฒนาศักยภาพในเรียนรู้ให้แสดงออกมาได้มากขึ้นค่ะ
การฝึกจะช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจ่อและสมาธิค่ะ เมื่อมีสมาธิได้ดี อารมณ์ก็จะมีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น การฝึกจึงสามารถช่วยในเรื่องของการมีเหตุผลและความมั่นคงทางอารมณ์ได้ค่ะ
กิจกรรมหลายกิจกรรมอาจมีรูปแบบคล้ายกัน แต่แน่นอนว่าผู้ใหญ่ย่อมมีกิจกรรมที่มีความยากมากกว่าเด็ก นอกจากนี้การฝึกของเราเป็นการฝึกตัวต่อตัว ผู้ที่เข้ามาทำการฝึกอาจได้รับการฝึกที่มีรูปแบบไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับผลการทดสอบนะคะ
ช่วยได้ค่ะ เนื่องจากการฝึกจะสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจ่อและสมาธิ ดังนั้นมันจึงสามารถเพิ่มศักยภาพทางความคิดและความยืดหยุ่นในกระบวนการคิววิเคราะห์ได้ค่ะ
ปกติแล้วเด็กเล็กนั้นจะมีความจำที่น้อยกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้วค่ะ เนื่องจากสมองส่วนหน้าที่ทำหน้าที่ในส่วนความจำของคนเรานั้นจะพัฒนาไปตามอายุ จนกระทั่งถึงจุด ๆ หนึ่งก็จะมีอาการเสื่อมไปตามอายุเหมือนกัน การที่จะบอกว่ามีถาวะความจำสั้นหรือสมองเสื่อมไหม จึงอาจต้องเทียบกับความสามารถเดิมของคนนั้นนะคะ ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วการหลงลืมหรือความจำสั้นจึงมักจะเกิดกับผู้สูงอายุมากกว่า ส่วนในเด็กที่เด็กมีความจำไม่ดี หรือถามอะไรซ้ำ ๆ ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการขาดสมาธิหรือที่เรียกว่าสมาธิสั้นมากกว่าค่ะ
งานวิจัยต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าการทำกิจกรรมต่าง ๆ จะช่วยสร้างการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์สมองและเพิ่มความสามารถในการจัดการชีวิตประจำวันของผู้ป่วยได้ค่ะ
คอร์ส Brain Smart Accelerate เหมาะสำหรับอายุ 4-7ปี เป็นคอร์สพัฒนาสมองลูกน้อยที่เข้มข้นและครอบคลุมทักษะต่างๆที่เป็นรากฐานการเตรียมความพร้อมการเรียนและการเริ่มเข้าสังคม เด็กในวัยนี้ควรพัฒนาหลักๆ คือ
1. พัฒนาทักษะด้านสมาธิ สมาธิส่งผลต่อความจำ การจดจ่อ
2. พัฒนาการด้านตรรกะและเหตุผล การควบคุมการจัดการตนเอง รวมไปถึงการเข้าร่วมสังคมกับเพื่อนๆในวัยเดียวกัน
3. พัฒนาทักษะทางด้านความจำ เพื่อนำไปใช้ประมวลผลทักษะที่ซับซ้อน เช่นการเริ่มรู้จักคิด เข้าใจในสิ่งที่ตนเองต้องการ
4. พัฒนาทักษะด้านการมอง ไหวพริบ การวิเคราะห์ข้อมูลจากการมองเห็น
5. พัฒนาทักษะด้านการเคลื่อนไหวและประสาทสัมสัมผัส การทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่ การทรงตัวและความสัมพันธ์ทางด้านร่างกาย
รวมถึงด้านอื่นๆอีกอื่นๆมากมายกว่า 15 ทักษะ
คอร์ส Brain Smart Grown-up เหมาะสำหรับอายุ 7-18ปี ทางสถาบันจะส่งเสริมพัฒนาการวัยเรียนที่พัฒนาด้านหลักๆที่จำเป็นต่อเด็กวัยนี้คือ
1. พัฒนาทักษะด้านสมาธิ สมาธิส่งผลต่อความจำ การจดจ่อ
2. พัฒนาการด้านตรรกะและเหตุผล การควบคุมการจัดการตนเอง รวมไปถึงการเข้าร่วมสังคมกับเพื่อนๆในวัยเดียวกัน
3. พัฒนาทักษะทางด้านความจำ เพื่อนำไปใช้ประมวลผลทักษะที่ซับซ้อน เช่นการเริ่มรู้จักคิด เข้าใจในสิ่งที่ตนเองต้องการ
4. พัฒนาทักษะด้านการมอง ไหวพริบ การวิเคราะห์ข้อมูลจากการมองเห็น
5. พัฒนาทักษะด้านการเคลื่อนไหวและประสาทสัมสัมผัส การทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่ การทรงตัวและความสัมพันธ์ทางด้านร่างกาย
รวมถึงด้านอื่นๆอีกอื่นๆมากมายกว่า 15 ทักษะ
คอร์ส Brain Smart Senior เหมาะสำหรับอายุ50ปีขึ้นไป ทางสถาบันจะส่งเสริมและฟื้นฟูความจำ การคิดและการพัฒนาสมองให้เหมาะสมกับวัยผู้สูงอายุด้วยทักษะหลักๆได้แก่
1. พัฒนาทักษะด้านสมาธิ สมาธิส่งผลต่อความจำ การจดจ่อ
2. พัฒนาการด้านตรรกะและเหตุผล การควบคุมการจัดการตนเอง รวมไปถึงการเข้าร่วมสังคมกับเพื่อนๆในวัยเดียวกัน
3. พัฒนาทักษะทางด้านความจำ เพื่อนำไปใช้ประมวลผลทักษะที่ซับซ้อน เช่นการเริ่มรู้จักคิด เข้าใจในสิ่งที่ตนเองต้องการ
4. พัฒนาทักษะด้านการมอง ไหวพริบ การวิเคราะห์ข้อมูลจากการมองเห็น
5. พัฒนาทักษะด้านการเคลื่อนไหวและประสาทสัมสัมผัส การทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่ การทรงตัวและความสัมพันธ์ทางด้านร่างกาย
รวมถึงด้านอื่นๆอีกอื่นๆมากมายกว่า 15 ทักษะ
แอดมินต้องขออภัยนะคะในเบื้องต้นน้องต้องมีอายุ 4 ขวบขึ้นไปค่ะคุณลูกค้า ถึงจะสามารถทำทดสอบได้นะคะ