Brain BG
Slide
Home Work Help
ลูกไม่อยากทำการบ้าน?
ลูกไม่อยากทำการบ้าน?
ทำอย่างไรให้ลูกทำการบ้าน
ทำอย่างไรให้ลูกทำการบ้าน

ลูกไม่อยากทำการบ้าน? ทำอย่างไรให้ลูกทำการบ้าน

การที่ลูกไม่อยากทำการบ้านหรือหลีกเลี่ยงการทำงานอาจเป็นสัญญาณของปัญหาบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับทักษะสมอง หากลูกของคุณมีพฤติกรรมนี้อยู่บ่อยครั้ง ไม่ใช่แค่ความขี้เกียจธรรมดา แต่อาจมีสาเหตุที่ลึกซึ้งกว่านั้น เช่น ปัญหาทางทักษะการคิดที่ไม่สมวัย ซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้และการทำงานประจำวัน

หากเรากำลังอยู่ในวัยเรียน สิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ การบ้าน การทำการบ้านช่วยในการพัฒนาทักษะต่าง ๆ เช่น การแก้ปัญหา, การวางแผน, การเขียน, การคิดนอกกรอบ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและอาชีพในอนาคต ซึ่งบางครั้งการบ้านมักถูกมองว่ายากมาก สาเหตุที่ทำให้การบ้านดูยากได้ อาจมีทั้ง…

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝึกสมอง

เริ่มฝึกสมอง พัฒนาศักยภาพของคุณ
ด้วยโปรแกรมฝึกสมองที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

หากคุณสงสัยว่าการฝึกสมองเหมาะ
สำหรับคุณหรือลูกของคุณหรือไม่?

ค้นหาคำตอบด้วยแบบทดสอบ
Gibson Test

สาเหตุที่ทำให้การบ้านดูยาก

ความยากของเนื้อหา

บางวิชาหรือหัวข้ออาจมีความซับซ้อนและยากมาก เช่นคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ ที่อาจมีสูตรหรือกระบวนการที่ซับซ้อนและไม่สามารถเข้าใจอย่างแท้จริง

ขอบเขตเวลาในการส่งการบ้าน

บางงานอาจมีกำหนดเวลาที่กำหนดให้เสร็จซึ่งอาจทำให้เกิดความกดดันเพิ่มขึ้นและทำให้งานดูยากขึ้น 

ความเข้าใจไม่ครบถ้วน

บางครั้งความเข้าใจในความรู้หรือข้อมูลที่ต้องใช้ในการบ้านไม่เพียงพอ อาจทำให้การแก้ไขปัญหาในงานและการเรียนเป็นอุปสรรค

รู้สึกไม่ชอบวิชาที่เรียน

เมื่อผู้เรียนรู้สึกไม่ชอบบางวิชาที่เรียนอาจทำให้รู้สึกไม่เต็มใจและไม่อยากจะทำมัน

ทริคในการเรียนรู้

แต่ละคนจะมีรูปแบบและวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน เช่น การจดบันทึก, การจัดเรียงข้อมูล, การฟัง หรือเรียนรู้จากการลงมือทำจริง

ข้อจำกัดทางสติปัญญา

บางคนอาจมีข้อจำกัดทางสติปัญญาในบางวิชาหรือหัวข้อที่ทำให้งานดูยากขึ้น

ความไม่มั่นใจ

ขาดความมั่นใจในความสามารถของตนเองอาจทำให้การทำงานดูยากขึ้น

เราจะช่วยให้ทำการบ้านทุกวิชาของคุณง่ายขึ้น

สิ่งที่จะช่วยให้การบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น คือ การสร้างนิสัยและกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับการทำการบ้าน

เราช่วยให้ทำการบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

เราจะช่วยฝึกสมองสำหรับทักษะการทำการบ้าน เน้นทักษะทางสมองพื้นฐานที่นักเรียนต้องการสำหรับการเรียนหนังสือ ซึ่งรวมถึงทักษะทางสมองเช่นหน่วยความจำ, การคิด, และทักษะในการรักษาความสนใจ นอกจากการช่วยเรื่องการบ้าน ทักษะเหล่านี้ยังสามารถนำไปใช้ชีวิตประจำวันของนักเรียนตลอดชีวิตได้

young-schoolgirl-uniform-standing-arms-crossed-classroom

โดยเราจะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนานิสัยการทำการบ้านที่แข็งแรง จากทักษะที่สำคัญต่างๆ ดังนี้

  • ทักษะการอ่าน
  • ทักษะการเขียน
  • ทักษะทางคณิตศาสตร์
  • การจัดระเบียบ
  • การบริหารเวลา
  • การคิดเชิงสร้างสรรค์ การกำหนดเป้าหมาย

วิเคราะห์ปัญหาทักษะการเรียนรู้ ด้วย Gibson Test

Gibson Test คือการทดสอบที่ช่วยวัดทักษะทางสมองที่สำคัญ ทั้ง 7 ด้าน  

1. Processing Speed ทักษะด้านความเร็วในการประมวลผล 

2. Working Memory ทักษะด้านความจำขณะทำงาน 

3. Long-Term Memory ทักษะด้านความจำระยะยาว 

4. Visual Processing ทักษะด้านการรับรู้ทางภาพ 

5. Logic and Reasoning ทักษะด้านตรรกะและเหตุผล 

6. Auditory Processing ทักษะด้านการรับรู้ทางเสียง

7. Word Attack ทักษะด้านการแแยกแยะคำ ผสมเสียง

แบบทดสอบสมอง

ทักษะสมองส่งผลต่อการเรียนอย่างไร?

ทักษะสมองหรือ Cognitive Skills มีบทบาทสำคัญในการทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการทำการบ้านของเด็กด้วย หากทักษะสมองไม่สมบูรณ์หรือไม่พัฒนาอย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้เด็กประสบปัญหาในการทำการบ้าน ซึ่งมีผลกระทบในด้านต่าง ๆ ดังนี้

การพัฒนาทักษะสมองที่ดี จะช่วยให้เด็กมีความสามารถในการทำการบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างราบรื่น

ฝึกสมองโดยผู้เชี่ยวชาญและรูปแบบการเทรนเฉพาะของ Brain and Life

Learning

One-on-One Learning

การเรียนรู้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง การฝึกสมองแบบตัวต่อตัวกับนักจิตวิทยา ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ จะคล้ายกับการเล่นเกม

Learning

Digital Training

ฝึกในระบบออนไลน์ด้วยตนเอง การฝึกด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ผู้เรียนจะได้ฝึกทักษะทางการคิดด้านต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มสมรรถนะการเรียนรู้ของสมอง

“ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงหลังได้รับการฝึกสมอง”

pre
Pre
post
Post

หลังจากการฝึกสมองด้วย BrainRX จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในการทำการบ้านที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

  • ความจำดีขึ้น เด็กจะสามารถจดจำข้อมูลได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งในการทำการบ้านหรือเนื้อหาที่ต้องใช้ ทำให้สามารถทำการบ้านได้ต่อเนื่องและแม่นยำมากขึ้น
  • สมาธิดีขึ้น เด็กจะมีสมาธิและจดจ่อกับการบ้านได้เป็นเวลานานขึ้น ลดการเสียสมาธิจากสิ่งรบกวนรอบข้าง ช่วยให้ทำการบ้านเสร็จเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพ
  • การประมวลผลข้อมูลเร็วขึ้น เด็กจะสามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้น ทำให้ไม่ต้องใช้เวลานานในการทำการบ้านหรือตอบคำถามที่ซับซ้อน สามารถทำงานได้เร็วและมีความมั่นใจมากขึ้น
  • การวางแผนและจัดการงานดีขึ้น เด็กจะมีความสามารถในการจัดลำดับงานและวางแผนการทำการบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่รู้สึกว่างานที่ได้รับยากหรือซับซ้อนจนเกินไป
  • ทักษะการอ่านและการเขียนดีขึ้น การฝึกสมองจะช่วยให้การอ่านและการเขียนเป็นไปอย่างราบรื่น เด็กจะเข้าใจคำถามและตอบคำถามได้ดีขึ้นในงานที่เกี่ยวข้องกับการอ่านหรือการเขียน
  • ความมั่นใจในตนเองมากขึ้น เมื่อเด็กสามารถทำการบ้านได้สำเร็จและเข้าใจเนื้อหามากขึ้น จะเกิดความมั่นใจในการเรียนและไม่รู้สึกว่าการบ้านเป็นเรื่องยากอีกต่อไป

นอกจากการพัฒนาทักษะทางสมองแล้ว ผู้ฝึกอาจพบว่า ความมั่นใจในการเรียนรู้และการทำงาน ของตนเองเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถจัดการกับงานหรือปัญหาที่เคยเป็นเรื่องยากได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้การเรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จากการวิจัยและข้อมูลจากผู้ที่ผ่านการฝึก BrainRx พบว่าผลลัพธ์เหล่านี้มักเห็นได้ภายในไม่กี่เดือนของการฝึก หากฝึกอย่างต่อเนื่อง

ขั้นตอนการเข้ารับบริการที่ Brain and Life

ลงทะเบียนและทำการทดสอบเบื้องต้น

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับการประเมินทักษะสมองด้วย Gibson Test โดยการทดสอบนี้จะช่วยให้คุณทราบถึงจุดที่ต้องการพัฒนาและจัดทำโปรแกรมที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล

ออกแบบโปรแกรมฝึกสมองเฉพาะบุคคล

หลังจากได้รับผลการทดสอบ ทีมผู้เชี่ยวชาญจะทำการออกแบบโปรแกรมฝึกสมองที่เหมาะสมกับทักษะที่ต้องการพัฒนา พร้อมทั้งวางแผนการฝึกและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

เริ่มโปรแกรมฝึกสมอง

เริ่มการฝึกสมองตามโปรแกรมที่ออกแบบไว้ ทั้งรูปแบบ One-on-One Learning และ Digital Training โดยผู้เรียนจะได้รับการดูแลและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญตลอดโปรแกรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเต็มที่

Testimonials

Testimonials

คำถามที่พบบ่อย

This will close in 0 seconds