ครูบอกว่าลูกเรียนช้า เรียนไม่ทันเพื่อน
สัญญาณเตือนที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม
เมื่อลูกถูกครูบอกว่า ลูกเรียนช้า กว่าเพื่อนในชั้นเรียน หรือทำงานช้ากว่าคนอื่น อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาทางการเรียนรู้ที่สำคัญ บางครั้งการที่ลูกอ่านหนังสือไม่ออก หรือทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่ทัน ไม่ได้หมายความว่าลูกขี้เกียจ แต่ปัญหาเหล่านี้อาจเกิดจากการทำงานของทักษะสมองที่ไม่สมบูรณ์
ทักษะด้านการเรียนรู้ เมื่อเด็ก ๆ หรือนักเรียนอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตนักเรียน, พวกเขาอาจต้องการความช่วยเพิ่มเติมในการเรียนรู้ ที่ Brain and Life เราเข้าใจว่าการเรียนรู้ต้องใช้องค์ความรู้ความสามารถทางการคิดและการเรียนรู้ที่แข็งแรง
สัญญาณที่พบบ่อยของเด็กที่มีปัญหาการเรียนรู้
เรียนรู้ช้ากว่าเพื่อน
ไม่สามารถเข้าใจบทเรียนได้เร็วเท่ากับเพื่อนในห้อง ทำให้ต้องใช้เวลามากขึ้นในการทำความเข้าใจ
ทำงานช้า
เมื่อต้องทำการบ้านหรืองานที่ได้รับมอบหมาย ลูกอาจใช้เวลามากเกินไป ทำให้ไม่สามารถทำงานให้เสร็จตามเวลาที่กำหนด
อ่านหนังสือไม่ออก
เด็กบางคนอาจมีปัญหาด้านการอ่าน ไม่สามารถอ่านออกเสียงหรือตีความหมายของคำศัพท์ได้ ทำให้ไม่สามารถเรียนรู้เนื้อหาที่ต้องอ่านได้อย่างเต็มที่
ลืมคำสั่งที่ได้รับ
บางครั้งลูกอาจลืมสิ่งที่ครูสั่งให้ทำ หรือไม่สามารถจดจำรายละเอียดที่จำเป็นต่อการทำงานให้เสร็จได้
สาเหตุของปัญหาการเรียนรู้ที่พบบ่อย
- ปัญหาทักษะสมอง: เด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับทักษะความจำ สมาธิ หรือการประมวลผลข้อมูล อาจพบว่าการเรียนรู้เป็นเรื่องยาก เนื่องจากสมองไม่สามารถทำงานได้เต็มที่
- ปัญหาสมาธิสั้น (ADHD): เด็กที่มีสมาธิสั้นมักจะจดจ่อกับงานได้ไม่นาน ทำให้ไม่สามารถทำงานหรือเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ความบกพร่องในการเรียนรู้ (LD): เด็กที่มีปัญหาความบกพร่องในการเรียนรู้ อาจมีความสามารถในการเรียนรู้ช้ากว่าปกติ หรือมีปัญหาด้านการอ่าน การเขียน หรือการคำนวณ
สัญญาณเหล่านี้บ่งชี้ว่าควรได้รับการฝึกสมอง
เรียนรู้ช้า แก้ได้ด้วย BrainRX
โปรแกรมเราเน้นการสร้างทักษะพื้นฐานด้านการคิดและการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนที่มีทักษะที่แข็งแรงและมั่นใจมากขึ้น StudyRx จะช่วยเพิ่มทักษะการเรียนรู้และการคิดกับผู้เรียนในทุกวัย และทักษะโปรแกรมทักษะการเรียน StudyRx จะช่วยด้านการเรียน การฝึกสมองจะช่วยสร้างพื้นฐานและเสริมทักษะทำให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและการคิดเชิงระบบมากยิ่งขึ้น โดยเรามุ่งเน้นพัฒนาทักษะ
- การอ่านให้มีประสิทธิภาพ
- การจดจำ
- การจัดระเบียบข้อมูล
- การวางแผนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
- การศึกษาให้มีประสิทธิภาพ
ใน StudyRx ผู้เรียนสามารถเพิ่มสมรรถนะการเรียนรู้ของพวกเขาและตอบสนองต่อความต้องการในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการศึกษา เพื่อเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้ในอนาคต
วิเคราะห์ปัญหาทักษะการเรียนรู้ ด้วย Gibson Test
Gibson Test คือการทดสอบที่ช่วยวัดทักษะทางสมองที่สำคัญ ทั้ง 7 ด้าน
1. Processing Speed ทักษะด้านความเร็วในการประมวลผล
2. Working Memory ทักษะด้านความจำขณะทำงาน
3. Long-Term Memory ทักษะด้านความจำระยะยาว
4. Visual Processing ทักษะด้านการรับรู้ทางภาพ
5. Logic and Reasoning ทักษะด้านตรรกะและเหตุผล
6. Auditory Processing ทักษะด้านการรับรู้ทางเสียง
7. Word Attack ทักษะด้านการแแยกแยะคำ ผสมเสียง
ทักษะสมองส่งผลอย่างไรต่อความเร็วในการเรียน?
ทักษะสมองหรือ Cognitive Skills เป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ หากทักษะสมองเหล่านี้ไม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อาจทำให้การเรียนรู้ของเด็กช้าลงและไม่สามารถเข้าใจบทเรียนได้เต็มที่ โดยทักษะสมองที่มีผลต่อการเรียนรู้ช้ามีดังนี้
ทักษะความจำขณะทำงาน
(Working Memory)
เด็กที่มีปัญหาความจำขณะทำงานจะจำไม่ได้ว่าต้องทำอะไรต่อหรือขั้นตอนในการแก้โจทย์หรือปฏิบัติงานต่าง ๆ เป็นอย่างไร ทำให้ไม่สามารถทำงานให้เสร็จสิ้นหรือทำงานผิดพลาดบ่อย ๆ
ทักษะการประมวลผลข้อมูล
(Processing Speed)
การที่สมองประมวลผลข้อมูลช้า หมายความว่าเด็กต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการทำความเข้าใจข้อมูลใหม่ ๆ ทำให้การเรียนรู้ในห้องเรียนหรือการทำการบ้านช้าลง
ทักษะการจดจ่อและสมาธิ
(Attention)
หากลูกไม่สามารถจดจ่อหรือมีสมาธิได้นานพอ จะทำให้เรียนรู้ได้ช้า เพราะไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่ครูกำลังสอนหรือเนื้อหาที่ต้องทำความเข้าใจได้ดีพอ
ทักษะการอ่านและการฟัง
(Auditory and Visual Processing)
การประมวลผลข้อมูลที่ได้รับผ่านการฟังหรือการอ่านที่ไม่ดีพอ ทำให้เด็กไม่สามารถตีความหรือเข้าใจสิ่งที่ฟังหรืออ่านได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้การเรียนรู้ช้าหรือไม่เต็มประสิทธิภาพ
การเสริมสร้างทักษะสมองเหล่านี้จะช่วยให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้เร็วขึ้น มีความเข้าใจและการแก้ไขปัญหาที่ดีขึ้น ทำให้สามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ
ฝึกสมองโดยผู้เชี่ยวชาญและรูปแบบการเทรนเฉพาะของ Brain and Life
“ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงหลังได้รับการฝึกสมอง”
หลังจากการฝึกสมองด้วย BrainRX จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในการเรียนรู้ช้าที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
- การจดจำดีขึ้น เด็กสามารถจำข้อมูลและคำสั่งที่ได้รับได้ดีขึ้น ส่งผลให้ทำการบ้านหรือเรียนรู้เนื้อหาใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- สมาธิและการจดจ่อ เด็กมีสมาธิและสามารถจดจ่อกับงานที่ทำได้นานขึ้น ไม่ถูกรบกวนจากสิ่งรอบข้าง ทำให้การเรียนรู้มีความต่อเนื่อง
- การประมวลผลข้อมูลเร็วขึ้น สมองที่ได้รับการพัฒนาจะสามารถประมวลผลข้อมูลและเข้าใจเนื้อหาใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น ส่งผลให้สามารถทำงานและเรียนรู้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ทักษะการอ่านและเขียน การอ่านออกเสียงและการตีความเนื้อหาจะดีขึ้น ทำให้เด็กสามารถเข้าใจสิ่งที่อ่านได้ชัดเจนขึ้น
- ความมั่นใจในตัวเอง การมีทักษะที่ดีขึ้นทำให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น สามารถเผชิญกับการเรียนรู้และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ
การฝึกสมองด้วย BrainRX จึงเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าสำหรับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็ก ทำให้พวกเขาสามารถเผชิญกับการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ จากการวิจัยและข้อมูลจากผู้ที่ผ่านการฝึก BrainRx พบว่าผลลัพธ์เหล่านี้มักเห็นได้ภายในไม่กี่เดือนของการฝึก หากฝึกอย่างต่อเนื่อง