
ลูกเขียนหนังสือกลับด้าน? เรื่องปกติของวัยหรือเป็น Dyslexia
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเคยสังเกตว่าลูกเขียนหนังสือกลับด้าน เช่น เขียนตัว b แทนตัว d หรือเลข 6 แทนเลข 9 แล้วสงสัยว่านี่อาจเป็นเพียงเรื่องปกติของพัฒนาการในวัยเด็ก หรืออาจเป็นสัญญาณของภาวะ ดิสเล็กเซีย (Dyslexia) ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคบกพร่องทางการเรียนรู้ (LD: Learning Disabilities) ที่ทำให้เด็กมองเห็นตัวหนังสือแตกต่างไปจากคนอื่น ๆ ทำให้ส่งผลต่อการอ่านและการเขียน
สารบัญ
- เขียนหนังสือกลับด้าน พัฒนาการปกติ หรือ ลูกเป็น Dyslexia
- โรคดิสเล็กเซีย (Dyslexia) เกี่ยวกับการเขียนอย่างไร
- สาเหตุของการเขียนหนังสือกลับด้าน
- ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเด็กเขียนหนังสือกลับด้าน
- วิธีวินิจฉัยและการประเมิน Dyslexia
- วิธีช่วยเหลือเด็กเขียนหนังสือกลับด้าน
- สรุป ลูกเขียนหนังสือกลับด้าน เรื่องปกติหรือ Dyslexia?

เขียนหนังสือกลับด้าน อาการของ Dyslexia?
การเขียนหนังสือกลับด้านเป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วไปในเด็กวัยเล็ก (4-7 ปี) เนื่องจากสมองของเด็กกำลังเรียนรู้และพัฒนาการแยกแยะรูปทรงตัวอักษรและตัวเลข รวมถึงการพัฒนากล้ามเนื้อมือสำหรับการเขียน การเขียนผิดหรือกลับด้านจึงเป็นเรื่องปกติในช่วงอายุนี้
แต่หากพฤติกรรมนี้ยังอยู่แม้ลูกจะโตขึ้นถึงในช่วงวัยประถม หรือมีปัญหาอื่นร่วมด้วย เช่น อ่านหนังสือไม่ออก หรือสะกดคำผิด อาจเป็นสัญญาณของ ดิสเล็กเซีย (Dyslexia) ซึ่งเป็นภาวะที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ การประมวลผลภาษา ส่งผลให้ไม่สามารถอ่าน สะกดคำ หรือเขียนหนังสือได้
โรคดิสเล็กเซีย (Dyslexia) เกี่ยวกับการเขียนอย่างไร
ดิสเล็กเซีย (Dyslexia) คือ “ความบกพร่องทางการอ่านและการเรียนรู้ภาษา ” จัดเป็นความผิดปกติด้านการเรียนรู้ (LD: Learning Disorder) ประเภทหนึ่ง เป็นภาวะที่ทำให้เด็กมีปัญหาในการประมวลผลตัวอักษรและเสียง ส่งผลให้การอ่านหนังสือ การสะกดคำ และการเขียน เป็นเรื่องยาก เพราะสมองของเด็กมีความบกพร่องในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างศูนย์ประมวลผลภาพและเสียง เมื่อเด็กเห็นตัวอักษร สมองอาจไม่สามารถแปลภาพตัวอักษรเหล่านั้นออกมาเป็นคำพูดได้อย่างถูกต้อง
อาการ Dyslexia
- มีปัญหาในการเชื่อมโยงตัวอักษรกับเสียง เมื่อได้ยินคำว่า “แมว” เด็กอาจไม่สามารถสะกดคำว่า “แนว” ได้ถูกต้อง
- ปัญหาในการจดจำรูปทรงตัวอักษร ทำให้เขียนตัวอักษรผิดหรือกลับด้าน เช่น b เป็น d
- อ่านหนังสือได้ช้าและไม่คล่อง
- สะกดคำผิดบ่อย เช่น “บ้าน” อาจเขียนเป็น “บาน”
- เรียงประโยคผิดลำดับ เช่น “ฉันเล่นฟุตบอลชอบ” แทน “ฉันชอบเล่นฟุตบอล”
เด็กเขียนหนังสือกลับด้าน หรือสะกดผิดบ่อย มักพบร่วมกับภาวะหรือโรคอื่น ๆ ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็ก เช่น บกพร่องทางการเรียนรู้ (LD) สมาธิสั้น (ADHD) หรือ ความบกพร่องทางการประมวลผลการมองเห็น (Visual Processing Disorder)
สาเหตุของการเขียนหนังสือกลับด้าน
การเขียนหนังสือกลับด้านเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจสังเกตเห็นในเด็กวัยอนุบาลหรือวัยประถมต้น เช่น การเขียนตัวอักษร b เป็น d การเขียนเลข 6 เป็นเลข 9 หรือการเขียนตัวอักษรกลับหัว ซึ่งสาเหตุของพฤติกรรมนี้อาจมาจากปัจจัยหลายด้าน รวมถึงพัฒนาการตามวัย ปัญหาทางการเรียนรู้ หรือปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลของสมอง เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น
- พัฒนาการของสมองที่ยังไม่สมบูรณ์
เด็กเล็กยังอยู่ในช่วงที่สมองกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการประมวลผลทางสายตา (Visual Processing) และการแยกแยะทิศทางของตัวอักษรและตัวเลข ยังไม่สามารถจดจำรูปทรงและลักษณะเฉพาะของตัวอักษรได้อย่างถูกต้อง - ความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Learning Disabilities: LD)
การเขียนหนังสือกลับด้านอาจเป็นสัญญาณของ ความบกพร่องทางการเรียนรู้ (LD) ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลต่อความสามารถในการอ่าน การเขียน และการสะกดคำ - สมาธิสั้น (ADHD)
เด็กที่มีสมาธิสั้น (ADHD) มักมีปัญหาในการจดจ่อกับรายละเอียดและการทำงานที่ต้องใช้ความประณีต เช่น การเขียนหนังสือ ทำให้เขียนตัวอักษรกลับด้านหรือผิดพลาดได้บ่อย - ปัญหาด้านการประสานงานของสมองและกล้ามเนื้อมือ (Motor Skills)
เด็กเล็กที่ยังพัฒนากล้ามเนื้อมือไม่เต็มที่ การเขียนหนังสือต้องใช้การประสานงานระหว่างสมองและกล้ามเนื้อมือ หากเด็กมีปัญหาในด้านนี้ อาจส่งผลต่อการควบคุมการเคลื่อนไหวของมือ ทำให้การเขียนไม่ถูกต้อง - การเลียนแบบหรือการมองเห็นผิดพลาด
เด็กเล็กมักเรียนรู้การเขียนจากการสังเกต หากพวกเขาเห็นตัวอักษรกลับด้านในสื่อหรือเขียนตามเพื่อนที่ผิด อาจนำไปสู่การเขียนผิดโดยไม่รู้ตัว
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับเด็กเขียนหนังสือกลับด้าน
การที่เด็กเขียนหนังสือกลับด้านมักทำให้ผู้ใหญ่เข้าใจผิด เช่น
“ลูกไม่ตั้งใจหรือขี้เกียจ” จริง ๆ แล้ว เด็กไม่ได้ตั้งใจเขียนผิด แต่เป็นผลจากการพัฒนาการสมองที่ยังไม่สมบูรณ์
“เด็กทุกคนจะหายได้เอง” แม้ว่าพฤติกรรมนี้อาจลดลงในเด็กทั่วไป แต่สำหรับเด็กที่มี ปัญหาการเขียน หรือมี ปัญหาการเรียนรู้ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ อาการนี้อาจส่งผลต่อการเรียนรู้ในระยะยาว
“ลูกฉลาดน้อยกว่าคนอื่น” เด็กที่มีปัญหาการเขียนกลับด้านไม่ได้มีความสามารถต่ำกว่า แต่พวกเขาอาจต้องการวิธีเรียนรู้ที่แตกต่าง
วิธีวินิจฉัยและการประเมิน Dyslexia
การประเมิน Dyslexia เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้พ่อแม่เข้าใจปัญหาของลูกและเลือกวิธีช่วยเหลือที่เหมาะสม การวินิจฉัยอย่างแม่นยำช่วยระบุปัญหาที่แท้จริงของเด็ก และยังช่วยป้องกันไม่ให้เด็กต้องเจอกับปัญหาด้านการเรียนรู้ในระยะยาว การวินิจฉัยมักทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยาเด็ก หรือ นักกิจกรรมบำบัด โดยใช้กระบวนการดังนี้
- การเก็บข้อมูลพฤติกรรม สอบถามพ่อแม่และครูเกี่ยวกับพฤติกรรมการอ่าน การเขียน และการเรียนรู้ของลูก เก็บรวบรวมทั้งที่บ้านและโรงเรียน
- การใช้แบบประเมินมาตรฐาน มีแบบทดสอบเฉพาะที่ใช้ในการวินิจฉัยโดยประเมินความสามารถด้านต่าง ๆ เช่น การอ่านออกเสียง (Oral Reading) การสะกดคำ (Spelling) การจดจำคำศัพท์ (Word Recognition)
- การสังเกตพฤติกรรม วิเคราะห์วิธีการเขียนหรือการการบ้านของลูกในสถานการณ์จริง
- การตรวจประเมินทักษะสมอง การประเมินการประมวลผลทางสายตา (Visual Processing) และ การประเมินการได้ยิน (Auditory Processing) เพื่อตรวจสอบว่าเด็กสามารถเชื่อมโยงเสียง จดจำหรือแยกแยะ กับตัวอักษรได้หรือไม่
- มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ADHD หรือปัญหาด้านการประมวลผลข้อมูล
Brain and Life Center ศูนย์พัฒนาสมองและศักยภาพ ให้บริการทดสอบทักษะสมองและพัฒนาการเด็ก ใช้การทดสอบ Gibson Test เพื่อตรวจหาทักษะที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ รวมถึงทักษะที่เกี่ยวข้องการการอ่านเขียน อย่างการประมวลผลสายตา การประมวลผลทางการได้ยิน พร้อมออกแบบคอร์สฝึกสมองให้เหมาะกับทักษะ และเทรนตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญซึ่งดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้เด็กพัฒนาได้ไว
แนะนำสถานที่หรือศูนย์ที่สามารถตรวจวินิจฉัย เด็ก LD หรือ Dyslexia


วิธีช่วยเหลือเด็กเขียนหนังสือกลับด้าน
การเขียนกลับด้านในช่วงแรกของการฝึกเขียนถือเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการตามวัย เนื่องจากเด็กยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาทักษะการรับรู้ด้านมิติสัมพันธ์และการควบคุมกล้ามเนื้อมือ อย่างไรก็ตาม หากพบว่าเด็กยังคงเขียนกลับด้านต่อเนื่องแม้จะผ่านวัย 7 ปีไปแล้ว หากลูกมีพฤติกรรมนี้อยู่ ควรเริ่มต้นหาวิธีช่วยเหลือเด็กเขียนหนังสือกลับด้าน ด้วยวิธีดังนี้
- สร้างความเข้าใจเรื่องทิศทาง ฝึกให้เด็กเข้าใจทิศทางซ้าย-ขวา โดยเริ่มจากการใช้มือและร่างกายของเด็กข้างที่ถนัด
- พัฒนาทักษะการมองเห็นและจดจำ ให้เด็กสังเกตรูปทรงและทิศทางของสิ่งต่างๆ หรือ เล่นเกมจับคู่ภาพที่เหมือนกัน หรือหาความแตกต่างของภาพ
- กิจกรรมเสริมการเรียนรู้ผ่านการเล่น การเรียนรู้ผ่านการเล่นช่วยให้เด็กสนุกและไม่รู้สึกกดดัน เช่น การต่อบล็อกตัวอักษร
- ฝึกการเขียนด้วยเทคนิคเฉพาะ ใช้แบบฝึกที่เน้นการเชื่อมโยงตัวอักษรกับเสียง เช่น การวาดรูปตัวอักษรในทราย
- ฝึกกล้ามเนื้อมือและการควบคุมการเขียน เช่น การปั้นดินน้ำมัน การเล่นตัวต่อเลโก้ จะช่วยให้กล้ามเนื้อมือแข็งแรงและการประสานงานระหว่างตากับมือดีขึ้น
- การบำบัดโดยนักกิจกรรมบำบัด จะช่วยให้เด็กพัฒนาได้อย่างตรงจุด โดยใช้เกมและกิจกรรมที่ช่วยเสริมทักษะ แนะนำวิธีที่เหมาะสม
สรุปลูกเขียนหนังสือกลับด้าน เรื่องปกติหรือ Dyslexia?
การเขียนหนังสือกลับด้านในเด็กเล็กถือเป็นเรื่องปกติของพัฒนาการ แต่หากพฤติกรรมนี้ยังคงอยู่จนถึงวัยประถม (7 ปีขึ้นไป) หรือมีปัญหาอื่นร่วม เช่น อ่านหนังสือไม่ออก หรือสะกดคำผิด ควรรีบพาลูกไปประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยว่าเป็น Dyslexia หรือไม่ การช่วยเหลือและรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น การบำบัดโดย นักกิจกรรมบำบัด หรือการใช้โปรแกรมพัฒนาสมอง จะช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนได้ดีขึ้น
Brain and Life Center พร้อมสนับสนุนพ่อแม่ด้วยโปรแกรมเฉพาะสำหรับเด็กที่มีปัญหา เขียนหนังสือกลับด้านออกแบบมาเฉพาะ โดยเน้นการพัฒนาความสามารถในการอ่านและการเขียน สมาธิและความจำ เพื่อให้ลูกของคุณมีพัฒนาการที่สมบูรณ์และมั่นใจในตนเอง!
