ฝึกสมองเก่งคณิต

ฝึกสมอง เก่งคณิตศาสตร์ โดยไม่ต้องพึ่งติวเตอร์

ไขความลับการฝึกสมองให้ เก่งคณิตศาสตร์ มากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งติวเตอร์ บางครั้งการที่อยากให้ลูกเก่งคณิต ทำให้ผู้ปกครองตัดสินใจพึ่งพาครูสอนพิเศษ เพื่อติวลูกเพิ่ม แต่ความจริงแล้ว เด็กสามารถพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์ได้เองผ่านการฝึกฝนสมอง โดยไม่ต้องพึ่งติวเตอร์เสมอไป เพียงแค่มีความตั้งใจและพร้อมที่จะฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะจัดความคิดให้เป็นระบบระเบียบ มีเหตุผลในกระบวนการคิด วิเคราะห์และแก้ปัญหาได้อย่างรอบคอบมากขึ้น

สารบัญ

ทำไมคณิตยาก

เด็กบางคนมองว่าการ เก่งคณิตศาสตร์ เป็นเรื่องยาก ตัวเลขเยอะ ท่องจำสูตร เกินความถนัดของตัวเอง จึงทำให้เด็กไม่สนใจที่จะเรียน หรือการขาดพื้นฐาน ทำให้เวลาต้องเจอโจทย์ที่ซับซ้อนขึ้นก็อาจทำให้รู้สึกสับสนและเสียความมั่นใจเพราะตอบไม่ได้ การจะเรียนคณิตศาสตร์ให้เข้าใจนั้นไม่ได้ยากเกินความสามารถของลูกน้อยอย่างแน่นอน ถ้าเราเข้าใจพื้นฐานและจัดการความคิดอย่างเป็นระบบได้ ก็จะทำให้เรามองเห็นภาพรวม และสามารถแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น

เด็กทุกคนอาจไม่ได้เกิดมาพร้อมความเก่ง แต่มาจากระบบประสาทและสมองของเด็ก การคิดเป็นระบบ การจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน จึงต้องพึ่งติวเตอร์คณิตศาสตร์์ในเรื่องที่ยากมากขึ้น

ประโยชน์ของการพึ่งติวเตอร์

  • การสอนที่ตรงจุด ติวเตอร์สามารถปรับการสอนให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของเด็กได้ อธิบายจุดที่เด็กยังไม่เข้าใจ หรือการทำแบบฝึกหัดที่เน้นจุดอ่อนของเด็ก
  • มีเทคนิคการจำโดยเฉพาะ ใช้เทคนิคและวิธีการที่เหมาะสมกับสไตล์การเรียนการสอน ซึ่งทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ปรับเปลี่ยนคอร์สเรียน ติวเตอร์สามารถปรับวิธีการสอนตามทักษะของเด็ก ทำให้สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ซึ่งถ้าฝึกสมองให้มีความคิดเป็นระบบจะช่วยพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ของลูกและการส่งเสริมพัฒนาการให้มีการคิด การจัดการแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง จะช่วยให้ลูกพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส วิธีเก่งคณิต แค่พึ่งการเรียนรู้ตัวเลขเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องอาศัยการ พัฒนาสมอง ควบคู่ด้วย เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างเป็นระบบและการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ลูกน้อยเก่งมากขึ้น ยกตัวอย่างวิธีเรียนให้เก่งมากขึ้น

  1. เน้นความเข้าใจมากกว่าการท่องจำ ท่องจำสูตรอย่างเดียว คงทำให้เก่งขึ้นไม่ได้ ต้องทำความเข้าใจและเชื่อมโยงสูตรไปประยุกต์เพื่อนำไปใช้้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
  2. ึกสมองด้วยเกมและปริศนา การฝึกสมองเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์ ช่วยพัฒนาความคิดเชิงตรรกะและความสามารถในการแก้ปัญหา จะช่วยเพิ่มทักษะในการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล
  3. ฝึกฝนทำโจทย์ การทำโจทย์คณิตศาสตร์เป็นประจำจะช่วยให้ เข้าใจรูปแบบต่าง ๆ ของโจทย์และแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น เน้นที่ความเข้าใจและการฝึกคิดอย่างเป็นระบบ
  4. ฝึกสมาธิ จะช่วยให้สมองผ่อนคลายและพร้อมสำหรับการเรียนรู้ในครั้งต่อไป สมองที่ได้พักจะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและคิดแก้ปัญหาได้ดียิ่งขึ้น

การใช้กระบวนการคิดอย่างเป็นระบบและตรรกะเพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เข้าใจแนวคิด การสร้างเหตุผล และการคิดเชิงนามธรรม จะช่วยให้เด็กสามารถแก้ปัญหาได้ดีขึ้นและสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ ตัวอย่าง การฝึกลูกให้คิดแบบ Mathematical Thinkin

1. การคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล

ตั้งคำถามที่จะช่วยให้ลูกคิดวิเคราะห์และหาคำตอบด้วยเหตุผล ฝึกการแยกแยะปัญหาเป็นส่วน ๆ และวิเคราะห์แต่ละส่วนเพื่อหาวิธีแก้ไข

2. ฝึกการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

ให้ลูกลองใช้หลายวิธีในการแก้ปัญหาแทนการใช้วิธีเดียว เช่น การใช้โจทย์คณิตศาสตร์ที่สามารถแก้ไขได้หลายวิธี แล้วพูดคุยเกี่ยวกับแต่ละวิธีและข้อดีข้อเสีย

3. ฝึกการคิดเชิงตรรกะ

ฝึกให้ลูกจัดลำดับเหตุการณ์ในเรื่องราว หรือแก้ปัญหาที่ต้องใช้เหตุผลในการตัดสินใจ เช่น การวางแผนการทำงาน ปริศนาที่ใช้การคิดอย่างเป็นระบบ

4. ฝึกการคิดเชิงคณิตศาสตร์

ส่งเสริมให้ลูกใช้สูตรคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ช่วยให้ลูกเข้าใจพื้นฐานของคณิตศาสตร์ เช่น การบวก ลบ คูณ หาร และการแก้สมการ

การฝึกลูกให้คิดแบบ Mathematical Thinking จะช่วยให้พวกเขามีทักษะในการแก้ปัญหาและการคิดอย่างมีเหตุผล ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการศึกษา การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการคิดจะช่วยให้ลูกสามารถพัฒนาทักษะได้มีีประสิทธิภาพ

ทำยังไงให้เก่ง

ถ้าอยากให้ลูกน้อยฝึก พัฒนาสมอง เพื่อเรียนให้เก่งหรือพัฒนาการจัดการข้อมูลของสมอง Brain and Life Center มีโปรแกรมช่วยเรียนรู้เกี่ยวกับด้านคณิตศาสตร์ หรือ MathRx ที่จะช่วยสร้างพื้นฐานเสริมทักษะให้กับทุกวัย ทั้งเด็ก วัยรุ่น ถึงวัยผู้ใหญ่ เหมาะกับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการคิด หรือผู้ปกครองที่คิดว่า ลูกไม่เก่งคณิตศาสตร์ แต่ อยากให้ลูกเก่งเลข คิด คำนวณ โดยโปรแกรม จะเสริมสร้างทักษะต่าง ๆ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ในทุกระดับ

  1. สอนทักษะคณิตศาสตร์ตามลำดับ โดยใช้ทักษะพื้นฐานสำหรับแนวคิดที่ซับซ้อน
  2. การปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับระดับทักษะของผู้เรียน
  3. การทำกิจกรรมซ้ำ ๆ เพื่อสร้างทักษะให้ถึงเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
  4. เทรนแบบตัวต่อตัวและให้คำแนะนำเพื่อไปพัฒนาต่อ

อ่าน MathRx เพิ่มเติม

สรุป

คณิตศาสตร์ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าฝึกฝนการคิดอย่างเป็นระบบ และไม่กลัวที่จะถามจะช่วยให้ลูกน้อยพัฒนาทักษะและมีความมั่นใจมากขึ้น ดังนั้น การเก่งคณิตศาสตร์ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาติวเตอร์เสมอไป การฝึกสมองและการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้ในชีวิตประจำวันสามารถช่วยลูกเก่งขึ้นได้ในระยะยาว

This will close in 0 seconds