
ฝึกเด็กสมาธิสั้นอย่างไรให้เห็นผล? แนวทางที่พ่อแม่ควรรู้
การฝึกเด็กสมาธิสั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในระยะสั้น แต่หากเข้าใจวิธีการอย่างถูกต้อง พ่อแม่สามารถช่วยให้ลูกพัฒนาทักษะชีวิต สมาธิ และพฤติกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เด็กสมาธิสั้น (ADHD) มักมีปัญหาเรื่องการจดจ่อ ขาดความอดทน และมีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น ซึ่งจำเป็นต้องใช้การฝึกที่เป็นระบบและต่อเนื่องจึงจะเห็นผล
ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับ วิธีฝึกเด็กสมาธิสั้น ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และช่วยให้เด็กๆ ค่อย ๆ ปรับตัว พัฒนา และเติบโตอย่างมั่นใจ
สารบัญ
วิธีฝึกเด็กสมาธิสั้น
1. สร้างกิจวัตรประจำวันที่สม่ำเสมอ
การฝึกเด็กสมาธิสั้นควรเริ่มจากการจัดกิจวัตรประจำวันอย่างเป็นระบบ เช่น เวลากินข้าว การบ้าน เล่น และเข้านอน การมีตารางเวลาชัดเจนช่วยให้เด็กคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้น และลดความสับสนที่ทำให้เสียสมาธิได้
2. แบ่งงานเป็นขั้นตอนย่อย
เด็กสมาธิสั้นอาจรู้สึกท้อเมื่อเผชิญกับงานใหญ่ๆ ควรฝึกโดยการแบ่งงานออกเป็นชิ้นเล็กๆ พร้อมเขียนหรือใช้สัญลักษณ์ช่วยเตือน เช่น สีหรือไอคอน การใช้ไวท์บอร์ดแสดงกิจกรรมแต่ละช่วงเวลา เช่น เช้า–บ่าย–เย็น ก็เป็นเทคนิคที่ได้ผลดี
3. จัดสภาพแวดล้อมให้พร้อมสำหรับการโฟกัส
การฝึกเด็กสมาธิสั้นให้จดจ่อควรเริ่มจากการจัดพื้นที่รอบตัวให้เหมาะสม เช่น โต๊ะทำงานที่ไม่มีของรก ไม่มีเสียงรบกวน เด็กจะสามารถจดจ่อกับงานหรือการเรียนรู้ได้ดีขึ้นเมื่อสภาพแวดล้อมเป็นมิตร
4. ควบคุมการใช้สื่อและหน้าจอ
การลดเวลาหน้าจอ เช่น ทีวี โทรศัพท์ หรือเกม เป็นวิธีฝึกเด็กสมาธิสั้นที่มีประสิทธิภาพมาก การปล่อยให้เด็กอยู่กับหน้าจอนานเกินไปจะยิ่งกระตุ้นอาการหุนหันพลันแล่น พ่อแม่ควรกำหนดเวลาใช้อย่างเหมาะสม พร้อมกระตุ้นให้เด็กทำกิจกรรมกลางแจ้งแทน
5. ส่งเสริมการออกกำลังกายเป็นประจำ
หนึ่งในวิธีฝึกเด็กสมาธิสั้นที่เห็นผลเร็วคือการออกกำลังกาย เช่น ปั่นจักรยาน วิ่ง ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬา การเคลื่อนไหวช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ส่งเสริมสมาธิ และลดความเครียดในตัวเด็ก
6. ฝึกการนอนอย่างมีคุณภาพ
การฝึกวินัยการนอนให้เพียงพอจะช่วยให้สมองของเด็กทำงานได้ดีขึ้น ควรงดกิจกรรมกระตุ้นก่อนนอน เช่น การเล่นมือถือ ดื่มน้ำหวาน หรือดูทีวี ให้เปลี่ยนเป็นกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น อ่านนิทาน หรือฟังเพลงเบาๆ แทน
7. ฝึกให้รอและยับยั้งพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น
เด็กสมาธิสั้นมักพูดแทรกหรือทำสิ่งต่างๆ โดยไม่คิด พ่อแม่สามารถฝึกให้เด็กรู้จักรอ เช่น การพูดว่า “ขอคิดก่อนตอบ” หรือ “รอสัญญาณก่อนพูด” เป็นการฝึกทักษะการควบคุมตัวเองในชีวิตประจำวัน
8. สร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง
การฝึกเด็กสมาธิสั้นให้มีความมั่นใจในตนเอง เริ่มจากคำชมเล็กๆ หรือรางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ดี การยกย่องความพยายามมากกว่าผลลัพธ์ จะช่วยให้เด็กมีกำลังใจในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
9. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการ
การฝึกเด็กสมาธิสั้นไม่จำเป็นต้องทำคนเดียว ปัจจุบันมีนักกิจกรรมบำบัด นักจิตวิทยา หรือโปรแกรมฝึกสมองแบบเฉพาะทางที่สามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้อย่างตรงจุด เช่น โปรแกรม Neurofeedback, การฝึก EF (Executive Function), หรือกิจกรรมบำบัดเฉพาะด้าน
10. ให้เด็กและผู้ปกครองมี “เวลาพัก” ที่เพียงพอ
การพักผ่อนสำคัญกับทุกคน การให้เด็กได้มีช่วงเวลาเล่นตามอิสระ หรือแม้แต่ให้พ่อแม่ได้ผ่อนคลาย จะช่วยลดความตึงเครียด และทำให้กระบวนการฝึกเด็กสมาธิสั้นเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
11. ควบคุมอารมณ์ของพ่อแม่ขณะฝึก
หนึ่งในความท้าทายของการฝึกเด็กสมาธิสั้นคือ “อารมณ์” ของผู้ใหญ่ การตอบโต้ด้วยความรุนแรงจะทำให้เด็กยิ่งต่อต้าน ควรฝึกให้ตัวเองใจเย็น ใช้เหตุผล และปรับการพูดให้สอดคล้องกับวัยและพฤติกรรมของเด็ก

เด็กสมาธิสั้นต้องสอนยังไง
การสอน เด็กสมาธิสั้น ต้องใช้ความเข้าใจ ความอดทน และเทคนิคที่ปรับให้เหมาะกับพฤติกรรมเฉพาะของเด็กกลุ่มนี้ ซึ่งแตกต่างจากการสอนเด็กทั่วไปในหลายด้าน ทั้งเรื่องการจดจ่อ การควบคุมอารมณ์ และการฟังคำสั่ง ลองดูแนวทางที่ช่วยให้ “สอนได้ผล” ดังนี้
1. ใช้คำสั่งสั้น กระชับ ชัดเจน
เด็กสมาธิสั้นมักมีปัญหาในการประมวลผลคำพูดยาวๆ ควรใช้คำสั่งที่เป็นรูปธรรม เช่น “หยิบดินสอมา” แทน “เตรียมตัวให้พร้อมทำการบ้าน”
2. สอนแบบทีละขั้นตอน
อย่าสอนหลายอย่างในคราวเดียว แบ่งเนื้อหาออกเป็นช่วงสั้น ๆ เช่น สอนแค่ 5-10 นาที แล้วพัก หรือทำกิจกรรมเปลี่ยนบรรยากาศ
3. ใช้สื่อช่วยจำ เช่น สี รูป หรือเสียง
เด็กสมาธิสั้นเรียนรู้ได้ดีผ่านภาพหรือกิจกรรม เช่น ใช้การ์ดสี สื่อการสอนแบบเล่นเกม หรือเพลงสั้น ๆ ช่วยจำ
4. ให้รางวัลและคำชมทันที
หากเด็กทำตามได้ ให้คำชมอย่างชัดเจน เช่น “เก่งมากที่นั่งทำจนจบ” การให้รางวัลแบบง่ายๆ เช่น สติกเกอร์ จะช่วยเสริมแรงบวก
5. ลดสิ่งรบกวนในห้องเรียนหรือที่บ้าน
ควรจัดที่นั่งให้ห่างจากหน้าต่าง เพื่อนที่ชวนคุย หรือของเล่น ใช้ฉากกั้นช่วยก็ได้ เพื่อให้โฟกัสกับสิ่งที่เรียน
6. ให้เด็กได้ขยับตัว
เด็กสมาธิสั้นมักมีพลังงานเหลือ ควรให้เวลาลุกเดิน เปลี่ยนกิจกรรม หรือให้เรียนรู้ผ่านการเคลื่อนไหว เช่น ใช้เกมการเคลื่อนไหวกับการทบทวนบทเรียน
7. ใช้วิธีซ้ำเพื่อความเข้าใจ
ต้องทบทวนเนื้อหาเดิมหลายครั้งด้วยวิธีที่หลากหลาย เช่น วาด แสดง เล่นบทบาทสมมุติ ไม่ใช่แค่พูดหรืออ่านอย่างเดียว
8. พูดคุยเชิงบวก
หลีกเลี่ยงการตำหนิว่า “ซน” หรือ “ไม่ตั้งใจ” แต่ควรพูดให้กำลังใจและเสนอทางเลือก เช่น “คราวนี้เรามาลองฟังให้จบนะ”
การสอนเด็กสมาธิสั้น ไม่ใช่เรื่องยากหากเข้าใจธรรมชาติของเขา การปรับรูปแบบการสอนให้เหมาะสม ร่วมกับการฝึกทักษะการคิดและการควบคุมอารมณ์ จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Brain and Life Center
Brain and Life Center ศูนย์ดูแลพฤติกรรมและพัฒนาสมองเด็กโดยผู้เชี่ยวชาญ ช่วยคุณพ่อคุณแม่วิเคราะห์ปัญหาสมาธิและพฤติกรรม พร้อมออกแบบโปรแกรมฝึกสมองเฉพาะบุคคล เพื่อเสริมทักษะการคิด สมาธิ และการควบคุมอารมณ์ ให้ลูกพร้อมใช้ชีวิตอย่างมั่นใจและมีความสุขในอนาคต
บทสรุป
การฝึกเด็กสมาธิสั้นเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความต่อเนื่องและความเข้าใจจากคนรอบตัว พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่ต้อง “เข้าใจ” และพร้อมเรียนรู้ไปกับลูกในทุกขั้นตอน ด้วยวิธีที่เหมาะสม เด็กสมาธิสั้นสามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ และใช้ศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่